'องอาจ' ซัด 'วิษณุ' ถ่วงเวลายื้ออำนาจเลื่อนเลือกตั้งท้องถิ่น

'องอาจ' ซัด 'วิษณุ' ถ่วงเวลายื้ออำนาจเลื่อนเลือกตั้งท้องถิ่น

"องอาจ" สวน "วิษณุ" ถ่วงเวลายื้ออำนาจ อ้างเลื่อนเลือกตั้งท้องถิ่นฟังไม่ขึ้น จี้เคาะไทม์ไลน์โดยเร็ว

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 63 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน ส.ส. กล่าวถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่า งบประมาณที่เตรียมไว้ใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ถูกนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 อาจส่งผลให้ต้องยืดออกไปถึงปี 2564 รวมถึงต้องรอการจัดสรรงบประมาณใหม่ ว่า การอ้างไม่มีงบประมาณเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น ที่อ้างว่าต้องเอางบประมาณไปแก้ปัญหาโควิด-19 ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่ เพราะงบประมาณที่ใช้เรื่องแก้โควิด-19 รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 มี พ.ร.ก. 3 ฉบับ ที่สามารถมีงบประมาณมาใช้จ่ายในเรื่องที่เกี่ยวกับโควิด-19 อยู่แล้ว และขณะนี้ก็จะมีงบประมาณจาก พ.ร.บ.โอนงบประมาณอีกส่วนหนึ่งมาใช้จ่ายเรื่องโควิด-19 ด้วย

"การที่รัฐบาลยังไม่ให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ น่าจะเกิดจากทัศนคติของผู้มีอำนาจที่คุมท้องถิ่นไว้ในมือมานานหลายปี จนไม่อยากให้อำนาจที่มีอยู่หลุดลอยไป รัฐบาลควรคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ควรมีข้ออ้างใดๆ มาถ่วงเวลาไม่ให้ประชาชนใช้สิทธิ์ใช้เสียงของตนเองตามระบอบประชาธิไตยในการกำหนดการบริหารจัดการท้องถิ่นด้วยมือของตนเอง"นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเวลาถามเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นกับผู้มีอำนาจ มักจะโยนกันไปมาระหว่างรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยกับกกต. มาถึงวันนี้ กกต. ยืนยันชัดเจนว่าพร้อม ระเบียบต่างๆ ดำเนินการเสร็จแล้ว กกต. ได้รับการจัดสรรงบที่ใช้ในการกำกับดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่น 800 ล้านบาท งบส่วนนี้ยังอยู่ ไม่ได้เอาไปใช้แก้ไขปัญหาโควิด-19 แต่อย่างใด กกต.ประกาศชัดเจนว่าพร้อมจะดำเนินการทันทีที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น เมื่อ กกต.ประกาศชัดเจนอย่างนี้ รัฐบาลจึงไม่ควรหวงอำนาจของประชาชนไว้เป็นอำนาจของตนเอง 

"ขอเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดไทม์ไลน์ของการเลือกตั้งท้องถิ่นให้ชัดเจนว่าจะเลือกตั้งท้องถิ่นรูปแบบต่างๆ เมื่อไหร่ อย่างไรเพื่อให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม อันเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับฐานรากอย่างแท้จริงต่อไป"นายองอาจ กล่าว