เปิดบ้านใหม่ 'อีวาย ประเทศไทย' ขับเคลื่อนการทำงานยุคใหม่ สู่อนาคตที่ยั่งยืน

ตลอดระยะเวลากว่า 65 ปี อีวาย ประเทศไทย (EY) ยืนหยัดในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระดับแนวหน้าที่ขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรธุรกิจ ด้วยการส่งมอบบริการระดับโลกแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งการตรวจสอบบัญชี ภาษี ธุรกรรม และการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญเชิงลึกและรากฐานวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง จนได้รับความไว้วางใจในระดับสูงจากภาคธุรกิจและสังคมในวงกว้าง จากความสำเร็จในอดีตสู่ก้าวแห่งอนาคต EY ได้เดินหน้าสู่จุดเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ ณ วัน แบงค็อก ทาวเวอร์ 3 แลนด์มาร์กแห่งอนาคตใจกลางกรุงเทพฯ ที่เป็นต้นแบบของอาคารสำนักงานอัจฉริยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการย้ายสู่สำนักงานแห่งใหม่นี้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการสร้าง "อนาคตที่ยั่งยืน" เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่องค์กร ลูกค้า พันธมิตร พนักงาน และสังคมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว

ด้วยวิสัยทัศน์อันก้าวไกลขององค์กร สำนักงานแห่งใหม่จึงถูกรังสรรค์ให้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สถานที่ทำงาน แต่ยังเป็น "ศูนย์กลางแห่งการสร้างสรรค์" และ "พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ" ที่สะท้อนแนวคิดการทำงานยุคใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมุ่งยกระดับประสบการณ์ของบุคลากรในทุกมิติ ตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาวะที่ดี การส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ไปจนถึงการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ปลดล็อกศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจ ยกระดับมาตรฐานการให้บริการลูกค้าในระดับสากล และตอกย้ำพันธกิจของ EY ในการขับเคลื่อนความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรม

รัตนา จาละ Country Managing Partner อีวาย ประเทศไทย กล่าวว่า การลงทุนในสำนักงานใหม่นี้ ไม่ได้เป็นเพียงการขยายพื้นที่ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของบุคลากรและองค์กรของเรา เราเชื่อว่าการทำงานในสถานที่ที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์และความสุขจะช่วยสร้างความผูกพันและส่งเสริมประสิทธิภาพของบุคลากร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต เพื่อที่เราจะสามารถมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าและสร้างคุณค่าให้กับสังคมต่อไป

การย้ายสำนักงานของ EY ถูกขับเคลื่อนด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นในการสร้างผลกระทบเชิงบวกในทุกมิติ ได้แก่ 1. A Move for Green ก้าวสู่การทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกอาคารที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน Green Building ระดับโลก พร้อมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อมุ่งสู่การประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 2. A Move for All สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ครอบคลุมและมีส่วนร่วม (Inclusiveness) ผ่านการออกแบบพื้นที่ที่ยืดหยุ่น เพื่อตอบโจทย์ความหลากหลายและสไตล์การทำงานของบุคลากรทุกคนอย่างแท้จริง และ 3. A Move for Good ส่งต่อคุณค่าคืนสู่สังคม ด้วยการส่งมอบเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์สำนักงานกว่า 5,000 ชิ้น จากสำนักงานเดิม ให้แก่โรงเรียนและมูลนิธิต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสร้างและขยายโอกาสให้กับผู้คนในสังคม ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่าการย้ายที่ตั้งของ EY คือการย้ายสู่อนาคตที่ยั่งยืนและมีความหมายอย่างแท้จริง 

สำนักงานใหม่ของ EY ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันภายใต้แนวคิดหลัก "Navigator" ซึ่งสะท้อนบทบาทขององค์กรในการเป็น หุ้นส่วนทางธุรกิจกับลูกค้าที่พร้อมให้การสนับสนุนในการกำหนดทิศทางแห่งอนาคต การออกแบบและรังสรรค์พื้นที่ล้วนมาจากความคิดเห็นของพนักงานผ่านการทำสำรวจ เวิร์กช็อปกลุ่มย่อย และทาวน์ฮอลล์ เพื่อให้ได้มาซึ่ง "พื้นที่แห่งการเติบโต" ที่สามารถตอบโจทย์และรองรับการทำงานของพนักงานทุกเจเนอเรชัน ดีไซน์ภายในมีการผสมผสานความเป็น "มืออาชีพระดับสากล" เข้ากับ "ความอ่อนน้อมแบบไทย" และ "ความร่วมสมัยของ EY" ได้อย่างลงตัว โดยในแต่ละชั้นได้ถูกออกแบบให้มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากทั้งสี่ภูมิภาคของไทย ผสานเข้ากับอัตลักษณ์สากลของ EY ทั้งในด้านสีสันที่มีการใช้สีเหลืองเป็นหลัก และรายละเอียดเชิงสัญลักษณ์ที่มีการนำ Beam บนโลโก้ของ EY ที่สื่อถึงการเชื่อมโยงมาเป็นองค์ประกอบ

"เราตั้งใจที่จะนำเสนอความเป็นสากลของ EY เข้ากับบริบทของประเทศไทย สำนักงานแห่งใหม่ของเราได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้สะท้อนทั้งเอกลักษณ์ความเป็นไทยและวัฒนธรรมองค์กรของ EY ได้อย่างกลมกลืน ทำให้มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับเดียวกันที่สะท้อนความเป็น EY ในทุกมุมมองและเป็นหนึ่งเดียวกันในทุกพื้นที่ของสำนักงาน" รัตนา อธิบาย

ภายใต้พื้นที่กว้างขวางทั้งสี่ชั้นของสำนักงานแห่งใหม่ ได้รับการออกแบบอย่างตั้งใจให้มีความเรียบง่ายแต่ทันสมัย ทุกตารางเมตรแฝงไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ชื่อห้องต่างๆ ถูกกำหนดอย่างมีเอกลักษณ์และร่วมสมัย เช่น The Studio, The Spice, The Space เป็นต้น พื้นที่ทั้งหมดถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนการทำงานในแบบ Co-working Space และการเชื่อมโยงปฏิสัมพันธ์ (Collaboration) ระหว่างพนักงาน นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ได้แก่ โซนสันทนาการ (โต๊ะเกม, ห้องคาราโอเกะ, โต๊ะพูล), พื้นที่ส่งเสริมสุขภาวะที่ดี (ห้องนวด, ห้องละหมาด, ห้องให้นมบุตร), โซนทำงานส่วนตัวหรือเป็นทีม (Phone Booth, ห้องประชุมหลากหลายรูปแบบ) รวมถึง Executive Lounge และบริการร้านกาแฟคุณภาพภายในสำนักงานอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนถูกออกแบบบนพื้นฐานความต้องการของพนักงาน

ด้วยพื้นฐานการเป็นองค์กรที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ เชื้อชาติ หรือความคิด EY หลอมรวมพนักงานให้เป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ปณิธาน "Shape the Future with Confidence" เพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกและลูกค้าอย่างมั่นใจ (Better Working World) สำนักงานแห่งใหม่ยังถูกออกแบบเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและก้าวหน้า ซึ่งเน้นให้พนักงานทุกคนมุ่งมั่นในเป้าหมายร่วมกันเพื่อความสำเร็จขององค์กร สนับสนุนและทำงานร่วมกันเป็นทีม ยกระดับคุณภาพงานอย่างต่อเนื่อง เปิดใจรับฟังและสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ พร้อมเคารพความหลากหลายและสิทธิของผู้อื่น เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติงานมีคุณภาพสูงสุด การย้ายสำนักงานใหม่ของ EY จึงถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนวัฒนธรรมองค์กรนี้อย่างแท้จริง

"สิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นพนักงานของ EY แม้เราทุกคนจะมีความแตกต่างและหลากหลาย แต่ทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือ ความมั่นใจที่จะร่วมสร้างอนาคตและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับโลก โดยยึดสังคมส่วนรวมเป็นหลักสำคัญ ดังนั้น เราจึงมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทันสมัย ตอบโจทย์ทุกคน และสอดรับกับวัฒนธรรมองค์กร เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานให้อยู่ร่วมพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน" รัตนา กล่าวปิดท้าย

การก้าวเดินบนเส้นทางบทใหม่ของ EY ในครั้งนี้ เป็นการมุ่งเดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืนในฐานะองค์กรต้นแบบด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาบุคลากร และการสร้างคุณค่าให้กับสังคม โดยสำนักงานแห่งใหม่จะเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคแห่งการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืน ขณะเดียวกัน EY ยังตั้งเป้าที่จะยกระดับประสบการณ์การทำงานและการให้บริการด้วยนวัตกรรมและมาตรฐานสูงสุดระดับโลก พร้อมเร่งพัฒนาและขยายการเติบโตธุรกิจที่มีรากฐานจากการตรวจสอบบัญชี สู่การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ กลยุทธ์ ภาษี เทคโนโลยี และการจัดการความเสี่ยงมากขึ้น ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำการให้บริการโซลูชันครบวงจรครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าแก่ลูกค้าและสังคมอย่างต่อเนื่อง