แก้ปัญหาแรงงาน 2 มิติ ส่งดีมานต์ให้ประเทศคู่สัญญา MOU แล้วเกือบ 1.5 แสนคน

แก้ปัญหาแรงงาน 2 มิติ ส่งดีมานต์ให้ประเทศคู่สัญญา MOU แล้วเกือบ 1.5 แสนคน

อธิบดีกรมการจัดหางาน ยันไทยมีความพร้อมนำเข้าแรงงาน แจงส่งดีมานต์ให้ประเทศคู่สัญญา MOU แล้วเกือบหนึ่งแสนห้าหมื่นคน

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากกรณีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้ประชาชนมีความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

รวมทั้งตั้งขอสังเกตถึงกระบวนการนำเข้าแรงงานข้ามชาติว่ามีความพร้อมและความรวดเร็วเพียงพอหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องนี้ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบโดยคำนึงถึงปัญหาขาดแคลนแรงงานของนายจ้าง สถานประกอบการ และความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของประชาชนในประเทศ 

กระทรวงแรงงาน โดยการนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น มุ่งแก้ปัญหาพร้อมกัน 2 มิติ คือ

1.การเปิดให้นำเข้าแรงงานข้ามชาติ 3 สัญชาติ มาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MOU ซึ่งล่าสุดมีการยื่นดีมานด์ขออนุญาตจ้างคนต่างด้าวคนตามระบบ MOU แล้ว167,961 คน โดยแบ่งเป็น

  • นายจ้างที่มีความต้องการจ้างแรงงานสัญชาติเมียนมา 117,029 คน
  • กัมพูชา 38,933 คน
  • ลาว11,999 คน

มีการอนุญาตตามคำร้องและส่งให้ประเทศต้นทางรวม 144,709 คน ซึ่งแรงงานสัญชาติกัมพูชา และลาวมีการทยอยเข้ามามาทำงานตาม MOU แล้วอย่างต่อเนื่องแล้วกว่า 6 พันคน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

อย่างไรก็ดี แรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นที่ต้องการของนายจ้างมากที่สุด ยังคงติดอุปสรรค ด้านความพร้อมในการจัดส่งแรงงานจากผลกระทบความไม่สงบภายในประเทศของประเทศต้นทาง ซึ่งการนำเข้าแรงงานข้ามชาติถือเป็นความร่วมมือ 2 ฝ่ายทั้งประเทศไทย และประเทศต้นทางของแรงงานเอง ฝ่ายไทยไม่สามารถแก้ไขให้ได้

2. การผ่อนผันอนุญาตให้แรงงานข้ามชาติ สัญชาติ เมียนมา ลาว กัมพูชา ที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีจำนวน 2,132,469 คน สามารถขออนุญาตทำงานและขออยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ ซึ่งเป็นทั้งการรักษาจำนวนแรงงานที่มีอยู่ในประเทศ และเพิ่มจำนวนแรงงานไปพร้อมกัน ในส่วนการตั้ง One Stop Service ณ ประเทศต้นทาง เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เพราะเกี่ยวข้องถึงการบริหารจัดการของรัฐบาลทั้ง  3 ประเทศ (เมียนมา ลาว กัมพูชา)

“ขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบการที่คิดจ้างแรงงานผิดกฎหมาย ให้คำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพของคนในประเทศ ความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ไม่จ้างแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฏหมาย กรมการจัดหางานมีกระบวนการนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MOU อย่างเป็นระบบ รวมทั้งมาตรการใช้กำลังแรงงานที่มีอยู่ในประเทศเป็นลำดับแรก

โดยมีการวางแผนให้ประเทศไทยมีแรงงานต่างด้าวในระบบการทำงานได้ถึงวันที่ 13 ก.พ. 66 ซึ่งคนต่างด้าวที่ได้รับผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรีในวาระต่าง ๆ หากดำเนินการตามขั้นตอนภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะสามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ต้องหลบซ่อน มีสวัสดิการและสิทธิตามกฎหมายแรงงานไม่ต่างจากคนไทย ” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว