'ซีโรโควิด'ฮ่องกงหนุนภาวะสมองไหลในกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ-แรงงานมีทักษะ

'ซีโรโควิด'ฮ่องกงหนุนภาวะสมองไหลในกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ-แรงงานมีทักษะ

'ซีโรโควิด'ฮ่องกงหนุนภาวะสมองไหล โดยโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าการที่นักลงทุนและแรงงานฝีมือต่างชาติออกจากฮ่องกง ส่งผลให้ความต้องการบ้านพักอาศัยลดลงประมาณ 20% ภายใน 2568

 ฮ่องกงกำลังเกิดภาวะสมองไหล เนื่องจากคนมีความรู้ความสามารถพากันหนีมาตรการปราบปรามโควิด-19ให้เหลือศูนย์ของทางการฮ่องกงที่เดินตามรอยมาตรการนี้จากรัฐบาลจีนอย่างเคร่งครัดและตั้งแต่ต้นปี 2565 ชาวฮ่องกงพากันอพยพออกจากศูนย์กลางทางการเงินของโลกไปแล้วเกือบ 157,000 คน

เว็บไซต์อัลจาซีราห์ นำเสนอรายงานเรื่องนี้โดยกล่าวถึง “ฟรานซิส ลี”ผู้บริหารวาณิชธนกิจชื่อดังในฮ่องกงและภริยาที่เดินทางกลับอังกฤษในสัปดาห์นี้หลังใช้ชีวิตอยู่ในฮ่องกงนานสองปี ซึ่งลี บอกว่ารู้สึกเศร้าใจที่ต้องเดินทางออกจากฮ่องกงแต่ลึกๆแล้วเขาก็รู้สึกโล่งอกที่ตัดสินใจแบบนี้

“ถ้านโยบายรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19ไม่รุนแรงแบบนี้เราอาจจะยังอยู่ในฮ่องกงต่อไป แต่ไม่ได้มีแค่เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมเริ่มหาทางหางานทำในอังกฤษ แต่ยังมีประเด็นการทดสอบหมู่และการกักตัวตามศูนย์ต่างๆในฮ่องกง ที่เพิ่มความวิตกกังวลแก่เขาอย่างมาก ถ้าไม่มีโรดแม็ป และไม่มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน คุณจึงไม่รู้เลยว่าสถานการณ์แบบนี้จะดำเนินไปยาวนานแค่ไหน” ลี กล่าวแก่อัลจาซีราห์

ลี ต้องทนอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวดของทางการฮ่องกงมานานกว่าสองปี ขณะที่ทั่วโลกยกเว้นจีน ตัดสินใจดำเนินชีวิตตามปกติร่วมกับการระบาดของโควิด-19 ซึ่งการดำเนินมาตรการปราบโควิดเป็นศูนย์ของฮ่องกงที่ดำเนินตามนโยบายจีนแผ่นดินใหญ่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ “Asia’s World City”ของฮ่องกงและทำให้นักธุรกิจและผู้มีความรู้ความสามารถจากต่างชาติพากันอพยพออกจากฮ่องกง

นอกจากนี้ การที่บรรดานักลงทุน ภาคเอกชน และแรงงานฝีมือต่างชาติพากันเดินทางออกจากฮ่องกง ส่งผลให้ความต้องการบ้านพักอาศัยต่าง ๆ ลดลง นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ราคาบ้านในฮ่องกงจะลดลงประมาณ 20% ภายใน 2568 หรือช่วง 4 ปีข้างหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจที่ถดถอย และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกระทบกับอุปสงค์

วาณิชธนกิจชื่อดังสหรัฐ คาดการณ์ว่า ด้วยสภาพดังกล่าวจะทำให้มูลค่าทรัพย์สินที่อยู่อาศัยลดลงเฉลี่ย 5% ทุกปี ตั้งแต่ 2022-2025 โดยราคาอาจยังคงทรงตัวในปีนี้ แต่จะทยอยลดลงในช่วงปีถัดไป

โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดการณ์อีกว่า อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารในฮ่องกงจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2.7% จนถึงปี 2567 อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นไปถึงประมาณ 3.8% จากระดับต่ำสุด 1.46% ช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงไปด้วย เนื่องจากความต้องการในตลาดลดลง

มาตรการในปัจจุบันที่ฮ่องกงใช้เป็นมาตรการที่เข้มงวดที่สุดในรอบ 2 ปี ทั้งการปิดบาร์ และ ฟิตเนส รวมถึงห้ามรับประทานอาหารในร้านอาหารหลังเวลา 18:00 น. และเมื่อวันที่ 5 เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ฮ่องกงได้ปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้โดยสารที่มาจากต่างแดนเหลือเพียง 14 วันจากเดิม 21 วัน หลังได้รับการร้องขอจากคณะผู้บริหารบริษัทการเงินและทูตต่างชาติ

โดยให้เหตุผลว่าอาจจะทำให้นักธุรกิจต่างชาติย้ายฐานการลงทุนไปที่อื่นๆ จะกระทบต่อความสามารถการแข่งขันของฮ่องกงในอนาคต

ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกง ระบุว่า รับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ชาวฮ่องกงอพยพออกจากประเทศไปพำนักในประเทศอื่นๆจำนวนเกือบ 157,000 คนและในการทำผลสำรวจของหอการค้ายุโรปในเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่า เกิือบครึ่งของบริษัทยุโรปที่ตอบแบบสอบถาม ระบุว่า กำลังคิดจะย้ายฐานการผลิตหรือย้ายสำนักงานออกจากฮ่องกง ซึ่งในเดือนเดียวกันนี้เอง หอการค้าฮ่องกง ก็ออกแถลงการณ์เตือนว่า ฮ่องกงกำลังเจอปัญหาแรงงานมีทักษะ-ความรู้ไหลออกนอกประเทศจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับตั้งแต่อังกฤษทำพิธีส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้จีน

เมื่อเดือนที่แล้ว “แคร์รี ลัม” ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดบางอย่าง โดยเริ่มให้มีผลบังคับใช้1เม.ย.เป็นต้นไป รวมถึงการยกเลิกคำสั่งห้ามเที่ยวบินต่างๆจาก9ประเทศและลดระยะเวลาในการกักตัวจากนักเดินทางที่เดินทางมาจากต่างประเทศเหลือ7วันแต่ถึงอย่างนั้น มาตรการผ่อนคลายต่างๆของทางการฮ่องกงก็ยังมีความเข้มงวดมากกว่าที่อื่นเช่น นิวยอร์ก ลอนดอน และสิงคโปร์

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ลัม ยอมรับเป็นครั้งแรกว่ามาตรการสกัดโควิดที่เข้มงวดอย่างมากส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถด้านการแข่งขันของฮ่องกง

“เป็นเรื่องที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ว่าเรากำลังเจอภาวะสมองไหลและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทบางแห่งตัดสินใจย้ายออกจากฮ่องกงไปอยู่ที่อื่น”ลัม กล่าว

นอกจากนี้ ลัม ยังประกาศไม่ลงชิงตำแหน่งผู้นำฮ่องกงอีกสมัย ในการเลือกตั้งผู้นำของฮ่องกงซึ่งจะจัดขึ้นตามแผนในวันที่ 8 พ.ค.นี้

ลัม  บอกว่า ให้เหตุผลในการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นเพราะเหตุผลด้านครอบครัว ไม่ได้เป็นเรื่องของผลงานที่ผ่านมา โดยเธอได้ชี้แจงการตัดสินใจดังกล่าวให้รัฐบาลกลางแล้ว ซึ่งทางรัฐบาลกลางก็เข้าใจเหตุผลนี้

ลัม กล่าวว่า “ดิฉันขอใช้โอกาสนี้เพื่อแจ้งให้สาธารณชนทราบว่า ดิฉันจะไม่สมัครชิงตำแหน่งผู้นำคนต่อไปของฮ่องกง”

ถ้อยแถลงนี้ของลัม ขึ้นหลังนักวิจารณ์บางรายระบุว่า มีโอกาสน้อยลงที่ลัมจะได้รับเลือกเป็นผู้นำฮ่องกงอีกสมัย เนื่องจากรัฐบาลฮ่องกงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ด้านสำนักข่าวซีเอ็นบีซีและสำนักข่าวในฮ่องกงรายงานว่า “จอห์น ลี” หัวหน้าคณะรัฐมนตรีฮ่องกง เตรียมลาออกจากตำแหน่งเพื่อลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำฮ่องกง แต่ลัมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับว่าที่ผู้สมัครในการเลือกตั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นลีหรือคนอื่น ๆ