รมช.มนัญญา เผยข่าวดี ทุเรียนไทย ส่งถึงจีนสำเร็จ

รมช.มนัญญา เผยข่าวดี ทุเรียนไทย ส่งถึงจีนสำเร็จ

ชาวสวนเฮ! รมช.มนัญญา เผยข่าวดี ทุเรียนไทยส่งถึงจีนสำเร็จ พร้อมเดินหน้ายกระดับด่านตรวจพืชตามมาตรฐาน ตรวจเข้มส่งออก-นำเข้า

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.65 รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ เวลา 10.00 น. ได้รับรายงานจากกรมวิชาการเกษตรว่า ทุเรียนของไทยส่งถึงประเทศจีนสำเร็จแล้ว และผ่านการตรวจสอบจากจีนว่าปลอดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงสาธารณสุข และจังหวัดจันทบุรี ร่วมกันทำ GAP+ ที่ปฏิบัติตามมาตรการการส่งออกผลไม้ไปจีน ทำให้วันนี้ล้งที่ผ่านการฝึกอบรมจากกรมวิชาการเกษตร ทั้งการพ่นยา การตรวจศัตรูพืช สามารถส่งออกไปถึงจีนได้สำเร็จ 

ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยและเกษตรกรชาวสวนทุกคน แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสว่าทุเรียนของไทยไม่สามารถส่งออกไปจีนได้ ขอเกษตรกรอย่าเชื่อข่าวบิดเบือนดังกล่าว วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าทุเรียนประเทศไทยมีคุณภาพมาตรฐาน ปฏิบัติตามมาตรการ Zero Covid อย่างเข้มงวด จนเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ 

โอกาสนี้ รมช.มนัญญา เป็นประธานพิธีมอบพันธุ์พืช ชีวภาพและชีวภัณฑ์ จากกรมวิชาการเกษตร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมพรรษา 67 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2565 และพิธีเปิดอาคารสํานักงานด่านตรวจพืชจันทบุรี ณ ด่านตรวจพืชจันทบุรี ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี 

ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสําคัญในการผลิตและการส่งออกผลไม้ของภาคตะวันออก จากสถานการณ์ความเข้มงวดของประเทศจีนในด้านสุขอนามัยพืชและการปนเปื้อนของเชื้อ Covid-19 จึงมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรจัดทํามาตรฐาน GAP Plus และ GMP Plus เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดสินค้าผลไม้ไทย ซึ่งผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ ได้มีการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานด้านกระบวนการผลิตและให้ความสําคัญกับมาตรการ Zero Covid มากขึ้น

 

รมช.มนัญญา กล่าวว่า ในส่วนของด่านตรวจพืช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ได้ให้ความสําคัญ และต้องการที่จะยกระดับมาตรฐานการทํางานให้มีความสามารถในการตรวจสอบศัตรูพืช และสารพิษตกค้าง รวมถึงการเชื่อมโยงการทํางานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมากขึ้น 

สําหรับด่านตรวจพืชจันทบุรีแห่งนี้ มีหน้าที่ตรวจสอบศัตรูพืช และตรวจปิดตู้ผลไม้เพื่อการส่งออกไปยังประเทศปลายทาง ให้ปลอดจากศัตรูพืชและเชื้อ Covid-19 เพื่อไม่ให้มีการแจ้งเตือนจากประเทศปลายทาง ดังนั้น กรมวิชาการเกษตร จึงจัดให้มีพิธีเปิดอาคารสํานักงานของด่านตรวจพืชจันทบุรี ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพัฒนาด่านตรวจพืชให้มีมาตรฐาน ทั้งด้านสถานที่ปฎิบัติงาน เครื่องมืออุปกรณ์และ ห้องปฏิบัติการ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถในการปฏิบัติงานและ เชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ด่านศุลกากร ด่านตรวจสัตว์ และประมง ในการรองรับโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor)หรือ EEC

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรมีภารกิจในการกํากับดูแลควบคุมการนําเข้า-ส่งออกพืช โดยมีด่านตรวจพืช จํานวนทั้งสิ้น 48 แห่งทั่วประเทศ เพื่อทําหน้าที่การตรวจสอบพืชผลิตผลพืช และวัสดุการเกษตรที่นําเข้า และส่งออกตาม พ.ร.บ.กักพืช พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ร.บ. พันธุ์พืชพ.ร.บ.ยาง และ พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของศัตรูพืชจากการเคลื่อนย้ายพืช และเพื่อเป็น การสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าของไทยไม่ให้มีการระบาดของศัตรูพืชจากต่างประเทศ เข้ามาในประเทศ และเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายสินค้าตลอด 24 ชั่วโมงในอนาคต ทําให้ต้องพัฒนาด่านตรวจพืชให้ได้มาตรฐาน เชื่อมโยงข้อมูลการปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกรมศุลกากร 

โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบ National Single Window (NSW) และการตรวจสอบสินค้า โดยเฉพาะทุเรียนสดส่งออกไปจีน ซึ่งมีข้อตกลงตามพิธีสาร ภายใต้มาตรการสุขอนามัยพืช กรมวิชาการเกษตรได้ปรับเปลี่ยนคําขอใบรับรองสุขอนามัยพืชเป็นแบบบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ e Phyto เพื่อรองรับการ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางการจีนในอนาคต.