ธนารักษ์ ยันรอ คทช. ตรวจสอบก่อนมีมติ ที่ดินอ.วังสมบูรณ์ 10,805 ไร่

อัปเดต ธนารักษ์สระแก้ว ยืนยันรอ คทช. ตรวจสอบก่อนมีมติอย่างเป็นทางการ กรณีที่ดิน 10,805 ไร่ อ.วังสมบูรณ์

ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดสระแก้ว ยืนยัน ต้องรอให้คณะกรรมการ คทช. เข้าไปตรวจสอบ เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการที่ดินตรงนี้ให้เกิดประสิทธิภาพและเหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด กรณีที่ดิน 10,805 ไร่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ก่อนมีมติอย่างเป็นทางการ จึงจะสามารถเข้าไปดำเนินการได้

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีกลุ่มชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าในตลาดและเจ้าของที่ดินในพื้นที่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ปิดป้ายประท้วงคัดค้านบริเวณร้านค้าริมถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี ตลอดสองฝั่งถนน เพื่อคัดค้านแนวทางการเข้ามาดำเนินการจัดการที่ดิน 10,805 ไร่ ของ คทช.ให้เป็นที่ราชพัสดุ และ สปก. 

นายกฤษดา ระวีเผ่าพงษ์ ธนารักษ์พื้นที่สระแก้ว กล่าวชี้แจงว่า ปัจจุบันนี้ทาง คทช. ที่มาจากส่วนกลางได้มีผู้แทนเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่และมอบหมายให้ทางสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดสระแก้ว ทำการตรวจสอบพื้นที่ ส่วนทางธนารักษ์ตอนแรกประสานให้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการ ดังนั้น คงต้องรอให้คณะกรรมการ คทช. เข้าไปตรวจสอบก่อนว่า แนวทางดำเนินการตามที่ คทช. มีมติไว้เบื้องต้นว่า จะมอบให้ธนารักษ์เป็นคนดูแลในเรื่องของที่ราชพัสดุ หรือมอบให้ทาง สปก. เป็นผู้ดูแล ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ

ขั้นตอนต่อจากนี้ หลังคณะกรรมการที่ลงตรวจสอบพื้นที่นำกลับเข้าไปพิจารณาหารือกับ คทช. ชุดใหญ่ ว่าแนวทางและข้อเท็จจริงในพื้นที่เป็นอย่างไร เมื่อได้ข้อยุติที่เป็นทางการแล้ว ก็น่าจะประสานมายังกรมธนารักษ์ และแจ้งให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สระแก้ว ดำเนินการต่อไป

นายกฤษดา กล่าวอีกว่า หากจะมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินการจากกรมธนารักษ์และ สปก. ไปเป็นแนวทางอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับ คทช.ชุดใหญ่ ซึ่ง ณ ขณะนี้แนวทางที่กำหนดมา 2 รูปแบบคือ ให้เป็นที่ราชพัสดุกับ สปก.เท่านั้นเอง ซึ่งความจริงรูปแบบการบริหารจัดการที่ดินมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับแนวนโยบายของ คทช.ว่า ในการบริหารจัดการเนื้อที่ที่อยู่ในตัววังสมบูรณ์ควรจะใช้รูปแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด เมื่อทาง คทช. มีข้อยุติมาเป็นทางการแล้ว คงจะมอบให้คนที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะเป็น ธนารักษ์พื้นที่ หรือ สปก.คงจะต้องมีการหารือร่วมกันอีก 1 ครั้ง

 ส่วนที่ชาวบ้านคัดค้านนั้น ไม่แน่ใจว่าชาวบ้านเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ใช้การบริหารจัดการรูปแบบอื่น เช่น นิคมสหกรณ์ ขึ้นอยู่กับแนวนโยบายของ คทช.ส่วนกลางว่า มีแนวนโยบายอย่างไร อยากจะบริหารจัดการที่ดินตรงนี้อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพและเหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด ซึ่งจะให้เป็นที่ราชพัสดุ หรือไม่เป็นก็ได้แล้วแต่นโยบาย จึงอยากให้ทุกท่านทำความเข้าใจในเรื่องของกระบวนการ ข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อน หรือมีอะไรสงสัยก็สอบถามมายังธนารักษ์พื้นที่ จ.สระแก้ว โทร.037-425100 น่าจะตอบคำถามเบื้องต้นได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับที่ดินดังกล่าว ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาที่ดิน ได้เข้าทำการสำรวจพื้นที่ในบริเวณพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์และพื้นที่ใกล้เคียง รวม 7 หมู่บ้าน โดยอ้างว่า เป็นการดำเนินการตามมติการประชุมหารือการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดสระแก้ว เพชรบุรี และปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64 โดยที่ประชุมมีมติ เห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดินพื้นที่ป่าไม้ถาวร "ป่าปลายคลองห้วยไคร้-พระสทึง" จังหวัดสระแก้ว

เนื้อที่ประมาณ 10,805 ไร่ ที่มีการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน 2 ประเภท คือ 1.ประเภทที่อยู่อาศัยและร้านค้า ,ตลาด, ปั๊มน้ำมัน, วัด, สวนสุขภาพ, โรงงาน, ที่ว่างเปล่า และลานมัน เนื้อที่ประมาณ 1,256 ไร่ โดยให้กรมธนารักษ์ไปดำเนินการ 2.ประเภทพื้นที่เกษตรกรรม ,ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ถนนและพื้นที่น้ำประเภทลำคลองต่าง ๆ เนื้อที่ประมาณ 9,549 ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร(สปก.) ไปดำเนินการ