"วันท้องถิ่นไทย" ทำไมต้อง 18 มี.ค. กำเนิดการปกครองส่วนท้องถิ่น อปท. ครั้งแรก

วางพานพุ่มถวายราชสักการะ ครบรอบ 117 ปี “วันท้องถิ่นไทย” ทำไมต้อง 18 มี.ค. กำเนิดการปกครองส่วนท้องถิ่น อปท. ครั้งแรกของไทย

เมื่อเวลา 07.30 น. ของวันที่ 18 มีนาคม 2565 ที่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ณ วัดสุทธิวาตวราราม พระอารามหลวง (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้มีการจัดพิธีถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสครบรอบ 117 ปี “วันท้องถิ่นไทย” (งานประเพณี 18 มีนา สุขาภิบาลท่าฉลอม) ประจำปี 2565 โดยได้มีคณะจากเทศบาลนครสมุทรสาคร โดยนายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาครพร้อมคณะ, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร โดยนายถาวร สุทธิกิตติวรกุล ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนนายก อบจ.สมุทรสาคร พร้อมคณะ, หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงมหาดไทยของจังหวัดสมุทรสาคร โดยนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมคณะ และนายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ขึ้นวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ ตามลำดับ
 

\"วันท้องถิ่นไทย\" ทำไมต้อง 18 มี.ค. กำเนิดการปกครองส่วนท้องถิ่น อปท. ครั้งแรก

จากนั้นในเวลา 08.30 น. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธีได้ขึ้นวางพวงมาลัย แล้ววางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ พร้อมกล่าวถวายราชสดุดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอมครั้งแรกของประเทศไทย และครั้งนั้นถือเป็น ปฐมบทแห่งการปกครองท้องถิ่นไทย รากฐานสำคัญของการปกครองประเทศในเวลาต่อมาจวบจนปัจจุบันนับเป็นเวลา 117 ปี ในโอกาสนี้รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้อ่านสารของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องในวันท้องถิ่นไทย ก่อนที่จะร่วมพิธีทำบุญถวายภัตตาหารและเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 10 รูป ซึ่งการจัดพิธีฯ ในปีนี้ก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย และจำกัดผู้เข้าร่วมพิธีให้เป็นเฉพาะผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด 19 ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดอยู่นั่นเอง

\"วันท้องถิ่นไทย\" ทำไมต้อง 18 มี.ค. กำเนิดการปกครองส่วนท้องถิ่น อปท. ครั้งแรก

สำหรับการจัดพิธีถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องใน “วันท้องถิ่นไทย” (งานประเพณี 18 มีนา สุขาภิบาลท่าฉลอม) นั้น เป็นไปตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ร่วมกับ จังหวัดสมุทรสาคร เริ่มจัดงาน “วันท้องถิ่นไทย” ตั้งแต่ปี 2554 เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ กำหนดให้วันที่ 18 มีนาคมของทุกปีเป็น “วันท้องถิ่นไทย” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2448 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้แก่ประชาชน และเป็นการถือกำเนิดของการปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นรากฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาจนถึงทุกวันนี้

ขณะที่สารจาก พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มีมาถึงพี่น้องกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เนื่องในโอกาส “วันท้องถิ่นไทย” ประจำปี 2656 ก็มีใจความว่า “คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ 18 มีนาคมของทุกปีเป็น “วันท้องถิ่นไทย” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พุทธศักราช 2448 ถือเป็น “ปฐมบทแห่งการปกครองท้องถิ่นไทย” และเป็นรากฐานการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น

นับจากปีพุทธศักราช 2448 จวบจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 117 ปี ประเทศไทยมีจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบรวมทั้งสิ้น 7,850 แห่ง ถือเป็นหน่วยของการบริหารราชการแผ่นดินที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ตรงตามความต้องการของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ทั้งในด้านการศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น การส่งเสริมการท่องเที่ยว การป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย การส่งเสริมการสร้างอาชีพ นวัตกรรมการบริหารจัดการ และแนวทางการ ให้บริการประชาชน ไปจนถึงการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ

ในนามของกระทรวงมหาดไทย ขอขอบคุณทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง สามารถบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่พี่น้องประชาชนคนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี เกิดผลสัมฤทธิ์และ เป็นรูปธรรม ทั้งในมิติของคุณภาพชีวิต การศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภค และโครงสร้าง พื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะการผนึกกำลังร่วมกับทุกภาคส่วนในการระงับยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และขอให้ร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนในทุกพื้นที่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคต่อไปอย่างเคร่งครัด ขอให้ยึดหลักธรรมาภิบาล ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการบริหารงานท้องถิ่น ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เน้นการบูรณาการร่วมกันกับราชการบริหารส่วนอื่น อย่างเต็มกำลัง ความสามารถเพื่อความผาสุกของพี่น้องประชาชน

ในโอกาสนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพนับถือ อีกทั้งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้โปรดปกป้องคุ้มครอง ผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ พนักงาน และบุคลากรองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นทุกท่าน ตลอดจนครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ในหน้าที่การงาน มีกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ ร่วมเป็นแรงพลังเพื่อช่วยกัน นำพาท้องถิ่นไทย ให้เป็นที่พึ่งของประชาชน และเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศต่อไป”