รวบแก๊งโจรแสบ ออกกลอุบายสลับเพชร 2.2 ล้าน เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
![รวบแก๊งโจรแสบ ออกกลอุบายสลับเพชร 2.2 ล้าน เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2024/05/mP18cKNCrHGyMxYdeoiB.webp?x-image-process=style/LG)
ตำรวจกองปราบรวบแก๊งโจรแสบ ออกกลอุบายสลับเพชร 2.2 ล้าน เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
แก๊งโจรแสบออกอุบาย สลับเพชร มูลค่าความเสียหายรวม 2.2 ล้านบาท พบประวัติเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หรือ กองปราบ ร่วมกันจับกุม นายศูนย์จันทร์ฯ ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น” โดยจับกุมได้ที่ บริเวณริมถนนสุขุมวิท นครระยอง 39 ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการติดต่อจากสมาคมผู้ค้าอัญมณีให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาซึ่งได้ร่วมกันลักเอาเพชรน้ำหนัก 3 กะรัต มูลค่าประมาณ 2.2 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาได้ออกอุบายทำทีเป็นนายหน้าติดต่อขอดูเพชรกับผู้เสียหาย โดยอ้างว่ามีผู้ซื้อสนใจจะซื้อเพชรน้ำหนัก 3 กะรัต โดยขอนัดหมายตรวจสอบดูสินค้ากันที่บริเวณร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
ต่อมาเมื่อถึงวันนัดหมาย ในระหว่างที่ผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นนายหน้าพูดคุยกับผู้เสียหายอยู่นั้น ผู้ต้องหาอีกคนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อ ได้นำเอาเพชรปลอมที่เตรียมมาสลับกับของจริง และบอกกับผู้เสียหายว่า ยังไม่สนใจซื้อและเก็บเพชรใส่ซองส่งคืนให้ผู้เสียหายก่อนจะออกจากร้านไป
จนกระทั่งผู้เสียหายมาทราบภายหลังว่า เพชรที่เอาไปให้ตรวจสอบถูกสลับกับเพชรปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 ราย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. ได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ต.ธนบดี ดวงจิตต์ สว.กก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ดำเนินการ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปรามได้ติดตามสืบสวนจนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ โดยผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่เป็นนายหน้าได้ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 1 เม.ย.67 โดยหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดตราด ส่วนนายศูนย์จันทร์ฯ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนสลับเพชร ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดระยอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวไว้ได้ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่ามีประวัติการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันหลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดพิจิตร