งานเข้า 5 บริษัทใหญ่! "ฉ้อโกงน้ำมันเขียว" ร้อยล้าน บุกค้น 8 จังหวัด 19 จุดทั่วปท.

เปิดโปง! งานเข้า 5 บริษัทใหญ่ "ฉ้อโกงน้ำมันเขียว" บุกค้น 8 จังหวัด 19 จุดทั่วประเทศ เสียหายปีหลายร้อยล้าน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ ( 8 มี.ค.2565 ) พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุมและเฝ้าระวัง การทำประมงโดยผิดกฎหมายพร้อมทีมงานเข้าตรวจสอบบริษัทน้ำมันและเรือในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อปราบการฉ้อโกงน้ำมันเขียว

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่มีการฉ้อโกงน้ำมันเขียวของเรือ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ลักลอบเติมน้ำมันเขียว ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดกฎเกณฑ์ไว้เพื่อให้น้ำมันเขียวเป็นทางเลือกในการช่วยเหลือเรือประมงในทะเลไทย ทางรัฐบาลจึงได้มอบหมายให้พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุมและเฝ้าระวัง การทำประมงโดยผิดกฎหมายพร้อมทีมงาน ด้านการตรวจสอบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางทะเล ดำเนินการปราบปรามในเรื่องนี้โดยการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานขนถ่ายในเขตต่อเนื่อง โดยไม่มีเหตุอันควรหรือไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.ศุลกากร 2560 มาตรา 189

โดยคณะทำงาน พบการกระทำความผิด 8 จังหวัดได้แก่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลาและปัตตานี และได้แบ่งกำลังการตรวจค้นเป้าหมายทั้งทางบกและทางน้ำเพื่อตรวจค้นบริษัทน้ำมันอันเป็นเจ้าของสถานีบริการน้ำมันดีเซลและเจ้าของเรือประมง ซึ่งได้ไปเติมน้ำมันเขียวจากเรือนสถานีบริการน้ำมันรวมทั้งเรือบริการน้ำมันในเขตต่อเนื่องเป็นจำนวน 5 ลำ 

ในภารกิจครั้งนี้ชุดปฏิบัติการเข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายทั้งสิ้น 19 จุด ประกอบด้วยสถานีบริการน้ำมันจำนวน 5 ลำเรือประมงจำนวน 3 ลำและบริษัท 4 ลำ ที่บริษัทสำนักงานเรือประมงบ้านเจ้าของเรือ 6 จุด อู่เรือ 1 จุด ใช้กำลังพลในการปฏิบัติการครั้งนี้จำนวน 180 นาย เรือตรวจการณ์จำนวน 7 ลำและอากาศยานไร้คนขับ (โดรน)จำนวน 1 ลำ โดยจะทำการตรวจค้นเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและทำเป็นรายงานสืบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดต่อไป

ซึ่งคณะทำงานได้ดำเนินการสืบขยายผลมาโดยตลอดจนพบว่า ในทะเลฝั่งอ่าวไทยได้มีการกระทำความผิดลักษณะเดียวกันกับฝั่งอันดามันเป็นจำนวน 5 บริษัทใหญ่

ซึ่งบริษัทเหล่านี้ มีสถานีบริการน้ำมันดีเซลเป็นของตนเอง เพื่อจำหน่ายให้แก่ชาวประมงตามนโยบายของรัฐบาล แต่ปรากฏว่ามีเรือประมง ซึ่งไม่มีสิทธิ์เติมน้ำมันเขียวตามประกาศกรมศุลกากรที่ 6 8/2561 เรื่องการอนุญาตให้ผู้ประกอบการนำน้ำมันดีเซลออกไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการในครั้งนี้ด้วย

พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง IUU กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นการดำเนินการตรวจสอบกระบวนการฉ้อโกงน้ำมันเขียว ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัฐปีละหลายร้อยล้านบาท โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันกับหลายหน่วยงานเพื่อปรับตามกระบวนการดังกล่าวให้หมดไปและขยายผลต่อไปหากเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีให้หมด

นอกจากนี้ จะมีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้โครงการน้ำมันเขียวของรัฐบาลเกิดประโยชน์แก่ชาวประมงไทยเราให้มากที่สุด  ในการนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการประมงดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้ทราบถึงลักษณะการทำประมงที่เป็นความผิดตามกฎหมาย

นอกจากนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวสามารถแจ้งข้อมูลมายังศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมงสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรงช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.hunmantraffcking.police.go.th หรือผ่านช่องทางเฟ๊ซบุ๊ก http://facebook.com/TICAC๒๐๑๖ เป็นต้น.