จับตา "โควิด" โอมิครอนในไทยพุ่ง 2-4 เท่าภายใน 2 สัปดาห์

จับตา "โควิด" โอมิครอนในไทยพุ่ง 2-4 เท่าภายใน 2 สัปดาห์

"โควิด" รายใหม่ต่อวันอาจพุ่งสูงถึง 2-4 เท่า หมอธีระ แนะจับตาดูภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมเผย 3 ประเทศติดเชื้อใหม่เกินแสนคนต่อวัน

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ "หมอธีระ" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เผยถึงสถานการณ์ "โควิด" ให้จับตา "โอมิครอน" ในไทยพุ่ง 2-4 เท่าภายใน 2 สัปดาห์

 

 

"หมอธีระ" โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ "โควิด" โดยให้จับตา "โอมิครอน" ในไทยว่า ทะลุ 391 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 2,774,373 คน ตายเพิ่ม 10,092 คน รวมแล้วติดไปรวม 391,121,692 คน เสียชีวิตรวม 5,741,695 คน

 

 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ

  1. ฝรั่งเศส
  2. เยอรมัน
  3. อเมริกา
  4. บราซิล
  5. รัสเซีย

 

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 87.79 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 83.83

 

ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 53.82 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 33.79

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 5 ใน 10 อันดับแรก และ 12 ใน 20 อันดับแรกของโลก

 

จับตา \"โควิด\" โอมิครอนในไทยพุ่ง 2-4 เท่าภายใน 2 สัปดาห์

 

 

สถานการณ์เอเชีย

ล่าสุดมี 3 ประเทศที่ติดเชื้อใหม่เกินแสนคนต่อวัน คือ อินเดีย ตุรกี และญี่ปุ่น ในขณะที่อีก 7 ประเทศอยู่หลักหมื่น แต่ไทยนั้นหากรวม ATK ด้วย ถือว่าเห็นเกินหมื่นมาตั้งแต่ช่วงกลางมกราคมมาเรื่อยๆ

 

ดูธรรมชาติการระบาดของ "โอมิครอน" Omicron ประเทศทั่วโลกมักมีกราฟการระบาดที่ขึ้นชันเหมือนหรือคล้ายกัน แม้บางประเทศจะดูยั้งๆในช่วงแรก แต่สุดท้ายพอเข้าสู่ช่วงอัตราเร่ง ก็จะเหมือนประเทศอื่นที่ขึ้นอย่างรวดเร็ว และลงเร็วในอัตราพอกัน

 

ดังที่เคยประเมินไว้ว่า เอเชียเริ่มช้ากว่าทวีปอื่น เราจึงเห็นว่าตอนนี้ทวีปอื่นเข้าสู่ขาลงไปแล้ว ทั้งแอฟริกา อเมริกา ยุโรป แต่ทวีปเอเชียหลายต่อหลายประเทศยังขึ้นต่อเนื่อง

 

สำหรับไทยเรานั้น การระบาดยังรุนแรงต่อเนื่อง ถ้าเราเป็นเหมือนภาพของทั่วโลก คาดว่าจำนวนติดเชื้อใหม่ต่อวันอาจสูงกว่านี้ไปได้อีก 2-4 เท่าหากไม่ป้องกันให้ดี โดยมีช่วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวัง จับตาดูราว 2 สัปดาห์

 

ทั้งนี้ หมอธีระ ระบุทิ้งท้ายว่า สำหรับเรื่องที่เราควรตระหนักและระวังให้มากคือ ปัญหาภาวะอาการคงค้างระยะยาว หรือ Long COVID