โบรกคาด ‘หุ้นไทย’ สัปดาห์แรกปี 65 มีลุ้น 1,700 จุด

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวานนี้ (4 ม.ค.) เปิดทำการวันแรกของปี 2565 ปิดที่ 1,670.28 จุด เพิ่มขึ้น 12.66 จุด หรือ 0.76% ระหว่างวันปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,674.19 จุด และมีจุดต่ำสุดที่ 1,663.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100,014.91 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,179.76 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 120.88 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 6,148.01 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยในประเทศขายสุทธิ 3,847.37 ล้านบาท

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแคป) เป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นหนุนตลาดมากที่สุด คาดว่าได้ปัจจัยหนุนจากกระแสเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ของนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาเข้ามาซื้อหุ้นไทย ซึ่งคาดว่าในเดือน ม.ค.จะเห็นการกลับเข้ามาซื้อสุทธิ

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่เหลือ (5-7 ม.ค.) ยังมีมุมมองเชิงบวก โดยคาดว่าตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มปรับขึ้นที่แนวต้าน 1,700 จุด และแนวรับที่ 1,650 จุด ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประกาศตัวเลขภาคการผลิตและการจ้างงานของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แต่เชื่อว่าไตรมาส 1 ปี 2565 จะยังเป็นไตรมาสที่ปลอดภัย

ส่วนปัจจัยเสี่ยงจากแรงขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะครบกำหนดในเดือน ม.ค. เบื้องต้นคาดมีแรงขายออกมาราว 1.1 หมื่นล้านบาท แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกดดันภาวะการลงทุน เพราะนักลงทุนสถาบันในประเทศขายปรับพอร์ตต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.2564 กว่า 1.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะมีเงินส่วนต่างที่สำรองไว้กลับเข้ามาซื้อหุ้นบางส่วน

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยได้ปัจจัยหนุนจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ภายหลังตลาดคลายกังวลประเด็นโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อีกทั้งคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสจะจบลงภายในปีนี้ โดยกลุ่มหุ้นที่ปรับขึ้นนำตลาดเป็นกลุ่มบิ๊กแคป ได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มอาหาร ซึ่งคาดว่าได้แรงหนุนจากฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้า

สำหรับแนวโน้มดัชนีสัปดาห์นี้ ยังมีมุมมองเป็นบวก โดยคาดว่าจะปรับขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,680-1,700 จุด และแนวรับ 1,660 จุด ขณะที่การลงทุนแนะนำซื้อหุ้นขนาดกลางถึงใหญ่ที่อยู่ในกลุ่ม Domestic Play ได้แก่ บมจ.ช.การช่าง (CK) บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI)