ทบ. ประท้วง เมียนมา ยิงกระสุนตกฝั่งไทย พร้อมคงกำลัง-ยุทโธปกรณ์พื้นที่สู้รบ

ทบ. ประท้วง เมียนมา ยิงกระสุนตกฝั่งไทย พร้อมคงกำลัง-ยุทโธปกรณ์พื้นที่สู้รบ

ทบ. ผนึกกำลังหน่วยงานมั่นคงคุมพื้นที่สู้รบ ดูแลประชาชนชายแดน จ.ตาก ช่วยผู้ลี้ภัยเมียนมา ตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมประท้วงเมียนมา ตามกลไกทีบีซี หลังกระสุนตกฝั่งไทย

28 ธ.ค.2564 ที่กองบัญชาการกองทัพบก  พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลัง พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันด้วยระบบออนไลน์  ว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ตาก ซึ่งปัจจุบันมีการสู้รบในเขตประเทศเพื่อนบ้านระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยอยู่เป็นระยะ  หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครกู้ภัย ผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันติดตามสถานการณ์ในทุกด้าน

ทบ. ประท้วง เมียนมา ยิงกระสุนตกฝั่งไทย พร้อมคงกำลัง-ยุทโธปกรณ์พื้นที่สู้รบ

รวมทั้งการส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ลาดตระเวนและเฝ้าตรวจตลอดแนวชายแดนที่ติดกับพื้นที่สู้รบ และพร้อมจะใช้กลไกที่มีอยู่ดูแลอธิปไตยตามหลักสากล  ควบคู่กับการใช้กระบวนการแจ้งเตือนโดยทันทีเมื่อตรวจพบสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติและความปลอดภัยของประชาชน เช่น เมื่อมีกระสุนข้ามมาตกยังฝั่งไทย ฝ่ายไทยได้ทำการประท้วงไปยังรัฐบาลเมียนมา ผ่านช่องทางคณะกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ให้ระมัดระวังเรื่องการใช้อาวุธ และปฏิบัติการทางอากาศ ซึ่งที่ผ่านมาการคลี่คลายผลกระทบดังกล่าวได้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย 

ทบ. ประท้วง เมียนมา ยิงกระสุนตกฝั่งไทย พร้อมคงกำลัง-ยุทโธปกรณ์พื้นที่สู้รบ

 โดย ผู้บัญชาการทหารบก ได้ย้ำให้ทุกหน่วยดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล และ กระทรวงกลาโหม  ในการติดตามสถานการณ์และการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศของกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมสั่งการให้กองกำลังนเรศวรเข้าดูแลราษฎรไทยที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย จากกระสุนที่พลัดตกเข้ามาในฝั่งไทย ช่วยซ่อมแซมให้คืนสภาพโดยเร็ว

รวมถึงการปรับภูมิทัศน์ ที่พักอาศัยของประชาชนชายแดนให้มีความปลอดภัยจากสถานการณ์  ทั้งนี้ การสร้างความมั่นใจและดูแลความปลอดภัยให้กับราษฎรไทยเป็นเรื่องที่กองกำลังป้องกันชายแดนและหน่วยงานด้านความมั่นคงให้ความสำคัญสูงสุด  

ทบ. ประท้วง เมียนมา ยิงกระสุนตกฝั่งไทย พร้อมคงกำลัง-ยุทโธปกรณ์พื้นที่สู้รบ

สำหรับการช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาให้ยึดตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ขีดความสามารถของหน่วยงาน และเมื่อเหตุการณ์สงบลงให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งกลับข้ามแดนด้วยความสมัครใจ  ซึ่งส่วนใหญ่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศทันทีอยู่แล้วเมื่อการสู้รบในแต่ละห้วงยุติลง 

ในการประชุม ผู้บัญชาการทหารบก ยังให้ความสำคัญกับการติดตามและกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอน โดยขณะนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก ได้ออกมาตรการให้หน่วยทหารครอบครัวและผู้ที่ติดต่อราชการได้ยึดถือปฏิบัติประกอบด้วยมาตรการความปลอดภัยจากโควิด-19 ในพื้นที่หน่วยทหาร มาตรการฉีดวัคซีนตามที่สาธารณสุขกำหนด มาตรการคัดกรองโรค เข้มงวดการผ่านเข้า-ออกพื้นที่หน่วยและชุมชนทหาร ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกกำชับให้ทุกส่วนปฏิบัติตาม โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนป้องกันความรุนแรงของโรค ซึ่งเป็นไปตามความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำถึงการดูแลความปลอดภัยพื้นที่ในค่ายทหาร การป้องกันอัคคีภัย กำชับกำลังพลระมัดระวังอุบัติเหตุ ส่วนผู้ที่ต้องปฏิบัติภารกิจดูแลประชาชน ทั้งกองกำลังป้องกันชายแดน จชต. และตามจุดตรวจจุดสกัด ให้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพลอย่างเหมาะสม และปฏิบัติตนภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกดูแลช่วยเหลือประชาชนเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุขและปลอดภัย