BRI เปิดเทรดวันแรก 11.00 บาท เหนือจอง 4.76%

BRI เปิดเทรดวันแรก 11.00 บาท เหนือจอง 4.76%

BRI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก ราคาเปิดเทรด 11.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.76% จากราคาจองซื้อ 10.50 บาทต่อหุ้น

บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (21 ธันวาคม 2564) เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดที่ 11.00 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.76% จากราคาจองซื้อ 10.50 บาทต่อหุ้น

BRI เป็นบริษัทแกนนำหลัก (Flagship Company) ของกลุ่มบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้ 4 แบรนด์ แบ่งตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และรูปแบบโครงการที่มีหลากหลายทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม

ได้แก่ แบรนด์ เบลกราเวีย แกรนด์บริทาเนีย บริทาเนีย และไบรตัน บริษัทมีประสบการณ์พัฒนาโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่ปี 2559 รวมทั้งสิ้น 15 โครงการ และมีโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในทำเลที่มีการขยายตัวทั่วประเทศ

BRI มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 426.33 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 600 ล้านหุ้น และ IPO จำนวน 252.65 ล้านหุ้น โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม 2564

สำหรับผู้ถือหุ้นของ ORI ที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BRI (Pre-emptive Right) และ 13-15 ธันวาคม 2564 สำหรับผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนสถาบัน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 10.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 2,652.83 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 8,953 ล้านบาท

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 17.52 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือน หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.60 บาท

โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริทาเนีย เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับบริษัท และเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัท

ทั้งในแง่ของต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ความเชื่อมั่นของคู่ค้า และผู้บริโภค รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขยายการลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ โดย BRI มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปพัฒนาโครงการของบริษัท รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืม และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท

BRI มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือหุ้น 70.00% 2) กลุ่มครอบครัวจรูญเอก ถือหุ้น 2.49% และ 3) กลุ่มครอบครัวชลคดีดำรงกุล ถือหุ้น 0.70% และมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังจากหักภาษี และทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้คณะกรรมการจะพิจารณาโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อประโยชน์ของกิจการและผู้ถือหุ้น

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์