ไทยเฮ!! ข้าวหอมมะลิไทยคว้าแชมป์โลก 2 สมัยติดต่อกัน

ไทยเฮ!! ข้าวหอมมะลิไทยคว้าแชมป์โลก 2 สมัยติดต่อกัน

ไทยคว้าแชมป์ประกวดข้าวดีที่สุดในโลกปี 2021 ติดต่อ 2 ปีซ้อน มั่นในปีนี้ส่งออกข้าวทะลุเป้า 6 ล้านตัน ส่วนปี 65 ตั้งเป้าส่งออก 7-7.5 ล้านตัน หวังแซงขึ้นอันดับ 2 ของโลก ด้านผู้ส่งออกกังวลปัญหาตู้สินค้าขาด ค่าระวางสูง เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกข้าวไทย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลการประกวดข้าวโลก หรือ World’s Best Rice Award 2021 ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งที่ 13 โดยผู้ค้าข้าวของสหรัฐฯ เป็นผู้จัด ตั้งแต่วันที่ 7-9 ธ.ค.2564 ที่ดูไบ โดยจัดแบบไฮบริด หรือรูปแบบผสมผสานเป็นครั้งแรก มีผู้ส่งข้าวเข้าประกวด 6 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐฯ จีน อินเดีย เวียดนาม เมียนมา และไทย จำนวน 11 ตัวอย่าง ผลการตัดสินปรากฏว่าข้าวหอมมะลิจากประเทศไทย คือ ข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งปลูกในภาคอีสานได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งส่งเข้าประกวดโดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย โดยการได้รับรางวัลชนะเลิศครั้งนี้ ถือว่าเป็นการได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และจากการจัดประกวด 13 ครั้ง ไทยได้ที่ 1 จำนวน 7 ครั้ง

ทั้งนี้ การได้รับรางวัลข้าวโลกครั้งนี้ เป็นความภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่งของคนไทย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามทุ่มเทของทุกฝ่ายในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานข้าวไทยที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกร สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ในช่วงที่ผ่านมา

ไทยเฮ!! ข้าวหอมมะลิไทยคว้าแชมป์โลก 2 สมัยติดต่อกัน

“การที่ข้าวหอมมะลิไทยได้รับรางวัลครั้งนี้ จะมีผลดีต่อความเชื่อมั่นในข้าวไทย และการส่งออกข้าวไทยต่อจากนี้ไป และในปีหน้า ส่วนการส่งออกในปีนี้ คาดว่ามีแนวโน้มจะสามารถทำได้เกิน 6  ล้านตัน ที่เป็นเป้าหมายที่กำหนดไว้”นายจุรินทร์กล่าว

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การประกวดปีนี้ ไม่มีการประกาศลำดับที่ 2 และ 3 จะประกาศเพียงผู้ชนะเลิศที่ได้คะแนนสูงสุดเท่านั้น ซึ่งนอกจากข้าวหอมมะลิไทยแล้ว ยังมีข้าวหอมจากประเทศอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของไทย โดยเฉพาะเวียดนาม ที่พัฒนาพันธ์ข้าวหอม หรือข้าวพื้นนุ่มอย่างต่อเนื่อง และสามารถส่งออกข้าวหอมได้มากถึงปีละประมาณ 2.5 ล้านตัน เพราะราคาถูกกว่าข้าวหอมมะลิไทยมาก ดังนั้น ไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาสายพันธุ์ข้าวพื้นนุ่มๆ ใหม่ เพื่อนำมาแข่งขันกับข้าวหอมของคู่แข่ง 

ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า   สำหรับ การส่งออกข้าวปีนี้น่าจะทำได้ 6 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้ไทยก็จะเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 3 ของโลก  โดยมีอินเดีย เป็นอันดับ 1 เวียดนาม อันดับ 2 ซึ่งปี 65 โดยได้วางเป้าส่งข้าวไว้ที่ 7-7.5 ล้านตัน และน่าจะแซงขึ้นเป็นอันดับ 2  อย่างไรก็ตามอุปสรรคปัญหาที่สำคัญในการส่งมอบสินค้า คือ  ตู้คอนเทนเนอร์ขาดไม่เพียงพอ ซึ่งเรือส่วนใหญ่ตกค้างที่สหรัฐมากกว่า 1 ล้านตู้ ทำให้ไม่มีตู้หมุนเวียนเข้ามาในประเทศ นอกจากนี้ ปัญหาค่าระวางเรือที่ปรับราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัวก็ส่งผลต่อต้นทุนการขนส่ง เช่น ค่าระวางเรือไปนิวยอร์ค ราคา 4,000 ดอลลาร์ต่อ 1 ตู้ แต่ปัจจุบันปรับขึ้นไปถึง 25,000 ดอลลาร์ต่อ 1 ตู้ ซึ่งแนวโน้มของค่าระวางก็ยังปรับตัวขึ้น

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เดือนพ.ย.2564 ที่ผ่านมา ตัวเลขใบขออนุญาตส่งออกข้าวสูงถึง 825,000 ตัน ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 11 เดือน และตัวเลขการส่งออกข้าวล่าสุด จนถึงเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2564 มีจำนวน 5.82 ล้านตัน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้