เอดีบีหั่นคาดการณ์ศก.เอเชีย กังวลไวรัสโอมิครอนแพร่ระบาดยืดเยื้อ

ทั้งนี้ เอดีบีปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (เจดีพี) ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาลงสู่ระดับ 7% ในปี 2564 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 7.1% และปรับลดคาดการณ์จีดีพีในปี 2565 ลงสู่ระดับ 5.3% จากระดับ 5.4%

เอดีบี เปิดเผยในรายงาน "Asian Development Outlook" ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า "แม้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเริ่มลดน้อยลง แต่ยอดติดเชื้อทั่วโลกยังคงพุ่งขึ้น นอกจากนี้ การพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วนั้น บ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะสามารถควบคุมได้"

รายงานของเอดีบี ยังระบุด้วยว่า เศรษฐกิจส่วนใหญ่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวที่อ่อนแอของเศรษฐกิจจีน

ทั้งนี้ เอดีบีปรับลดคาดการณ์จีดีพีของจีนในปี 2564 ลงสู่ระดับ 8% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 8.1% และปรับลดคาดการณ์จีดีพีจีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 5.3% จากระดับ 5.5%

เอดีบี ระบุว่า "ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) รายงานว่าได้แพร่ระบาดไปยังประเทศต่าง ๆ กว่า 60 ประเทศนับตั้งแต่มีการพบครั้งแรกในทวีปแอฟริกาและฮ่องกงเมื่อเดือนพ.ย.นั้น ทำให้เราตระหนักว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่การแพร่ระบาดจะดำเนินต่อไป"

เอดีบี ยังได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีในปี 2564 ของอินเดียลงสู่ระดับ 9.7% จากระดับ 10% แต่ได้คงตัวเลขคาดการณ์จีดีพีในปี 2565 เอาไว้ที่ระดับ 7.5%

นอกจากนี้ เอดีบียังปรับลดคาดการณ์จีดีพีของประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2564 ลงสู่ระดับ 3% จากระดับ 3.1% แต่ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีในปี 2565 ขึ้นสู่ระดับ 5.1% จากระดับ 5%

ส่วนในด้านเงินเฟ้อนั้น เอดีบีคาดว่าภาวะเงินเฟ้อในเอเชียยังคงอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ ซึ่งจะเปิดทางให้ธนาคารกลางของประเทศเอเชียสามารถใช้นโยบายสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อรับมือความเสี่ยงที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19