"บอร์ด สกสค." ถอย ปรับเกณฑ์ประเมิน "เลขาฯ" สอบผ่านที่60%

"บอร์ด สกสค." ถอย ปรับเกณฑ์ประเมิน "เลขาฯ" สอบผ่านที่60%

"ตรีนุช" นั่ง หัวโต๊ะถก "บอร์ด สกสค." ยอมปรับเกณ์ ประเมิน "เลขาฯ" คงเดิม 60% จ่อเปิดประเด็นใหม่ "ธนพร" ไม่ส่งผลงานตามกำหนด ทั้งที่ดำเนินการแล้ว แต่ไม่ถูกบรรจุเข้าวาระการประชุม ขรก. เอือม จ้องบีบพ้นตำแหน่ง จนงานพอก เดินหน้าไม่ได้

ความเคลื่อนไหวในกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (บอร์ด สกสค.) โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานบอร์ด สกสค.เป็นประธานที่ประชุม มีวาระน่าสนใจคือการพิจารณากรณีที่ นายธนพร สมศรี เลขาธิการ สกสค. คัดค้านเกณฑ์ประเมินเลขาธิการ สกสค.ว่าไม่เป็นธรรม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบปรับเกณฑ์การประเมินเลขาธิการ สกสค. จากเดิมที่จะต้องผ่าน 75% เป็น 60% ตามเกณฑ์เดิม พร้อมตัดการประเมินเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมในหัวข้อสมรรถนะออกด้วย อย่างไรก็ตามที่ประชุม ไม่ได้พิจารณาเปลี่ยนตัวกรรมการประเมินบางรายที่อาจมีความไม่เป็นกลางตามที่นายธนพร คัดค้านไว้

อย่างไรก็ตาม แม้ที่ประชุมบอร์ด สกสค. มีมติแก้ไขเกณฑ์บางประเด็นตามที่นายธนพร คัดค้านแล้ว แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติหลายประเด็น อาทิ มีการเลื่อนการประชุมจากวันที่7 ธ.ค.มา เป็นวันที่ 9 ธ.ค. แต่การประชุมในวันที่ 9 ธ.ค. ก็ยังเริ่มช้ากว่าที่นัดหมาย เนื่องจากมีการหารือนอกรอบก่อนเข้าประชุม อีกทั้งยังมีการพักประชุมบ่อยครั้ง เพราะระหว่างประชุมน.ส.ตรีนุช ได้ออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้องประชุมเป็นเวลานานหลายครั้ง ตลอดจนการที่ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบความถูกต้องของเกณฑ์ทางกฎหมาย และความเป็นธรรม ก็ไม่ได้รายงานผลการตรวจสอบกับที่ประชุมแต่อย่างใด 

นอกจากนี้ หลังจากมีมติแก้เกณฑ์ประเมินแล้ว แต่ในที่ประชุมกลับเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมากล่าวหา นายธนพรว่า ไม่ได้ส่งแผนการทำงานของเลขาธิการ สกสค.ในปีงบประมาณ 65 ตามกำหนด คือก่อนวันที่ 30 ส.ค.64 ซึ่งเป็นกรณีที่ผิดสัญญาจ้างและสามารถเลิกจ้างได้ทันที แต่เมื่อตรวจสอบก็พบว่านายธนพร ได้ส่งแผนการทำงานของเลขาธิการ สกสค.ในปีงบประมาณ 65 ตามกำหนดแล้ว แต่ไม่ถูกบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของบอร์ด สกสค.เท่านั้น

“คาดว่าการประชุมบอร์ด สกสค. ครั้งต่อไปจะมีการนำแผนการทำงานของเลขาธิการ สกสค.ในปีงบประมาณ 65 เข้ามาพิจารณา แต่ที่ประชุมก็อาจจะไม่อนุมัติแผน และส่งคืนให้เลขาธิการสกสค.ปรับปรุงมาใหม่อีกครั้ง เพราะในสัญญาจ้างเลขาธิการ สกสค.ระบุว่า หากแผนการทำงานไม่ผ่านการอนุมัติ 2 ครั้ง ก็เป็นเหตุให้เลิกจ้างได้เช่นกัน” แหล่งข่าวในกระทรวงศึกษาธิการ ระบุ

นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนา สกสค. เช่น แผนการใช้งบประมาณประจำปี 65 ที่ถูกนำเข้าประชุมอย่างน้อย 4 ครั้ง ก็ถูกเลื่อนวาระอื่นขึ้นมาพิจารณาแทน ก่อนที่จะขอเลื่อนการพิจารณาไปในการประชุมครั้งต่อไป โดยอ้างข้อจำกัดเรื่องเวลา ส่งผลให้แผนงานต่างๆ ของเลขาธิการ สกสค.ในปีงบประมาณ 65 ยังไม่สามารถเริ่มปฏิบัติได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. และส่งผลต่อการประเมินในครั้งต่อไป

“ระยะหลังการประชุมบอร์ด สกสค.แทบไม่ได้ประชุมเรื่องอื่นเลย เพราะมุ่งประเด็นไปที่เรื่องการประเมินเลขาธิการ สกสค.ให้ตกอย่างเดียว เมื่อวาระที่เกี่ยวกับการทำงานไม่เข้า งบประมาณไม่ผ่าน ก็เป็นการบีบเลขาธิการ สกสค.ให้ทำงานไม่ได้ จนข้าราชการที่เป็นบอร์ดอึดอัด เจ้าหน้าที่สกสค.เอือมระอา เพราะงานคั่งค้างเป็นดินพอกหางหมู” แหล่งข่าวในกระทรวงศึกษาธิการ ระบุ