"นายกฯ"กดโอนเงิน ประกันรายได้ชาวนา "ประภัตร" จัดเต็ม ใส่เสื้อ "รักลุงตู่"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้แก่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รวมถึง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ลงพื้นที่ที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรสุพรรณบุรี ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเป็นสักขีพยานในโอกาสมอบเงินตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนานปีการผลิต 2564 - 2565 แก่ผู้แทนเกษตรกรจำนวน 7 คน พร้อมกดปุ่มโอนเงิน ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนานปีการผลิต 2564/2565 ทั่วประเทศผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 

สำหรับการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนาน ปีการผลิต 2564/65 ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ได้มีการโอนเงินให้เกษตรกรแล้วจำนวน631,963 ราย เป็นเงิน 12,653.18 ล้านบาท โดยในวันที่ 9 – 13 ธ.ค. 64 จะมีแผนการโอนเงินให้เกษตรกรอีก จำนวน 3.58 ล้านราย เป็นเงินจำนวน 64,823.51 ล้านบาท ในส่วนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจังหวัดสุพรรณบุรีได้รับเงินโอนโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 จำนวน 38,717 ราย เป็นจำนวนเงิน 829,808,027.98 บาท และมีเกษตรกรได้รับเงินโอนโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 จำนวน 59,674 ราย เป็นจำนวนเงิน883,126,641.75 บาท

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่า สิ่งแรกที่นึกถึงเมื่อเดินทางมาจังหวัดสุพรรณบุรีคือ เพลงเลือดสุพรรณ ชอบเนื้อร้องช่วง มาด้วยกันไปด้วยกัน แม้ตนไม่ได้เกิดที่สุพรรณฯ แต่เกิดในประเทศไทย วันนี้มากับสุพรรณฯ ก็ต้องไปกับสุพรรณฯ 

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการคู่ขนานครั้งนี้ ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ ส่วนตัวมีความห่วงใยเกษตรกรที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติและรู้ดีถึงความยากลำบากในการได้ผลผลิตมาแต่ละครั้ง รัฐบาลให้ความสำคัญในด้านภาคการเกษตรเป็นภาคการผลิตที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยเจริญเติบโตมาโดยตลอด ยืนยันเจตนารมณ์ของรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีวิธีการผลิตที่เหมาะสม มีรายได้ที่ดีขึ้น สร้างรอยยิ้ม สร้างความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น 

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามที่จะลดต้นทุนการผลิต ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้นรวมถึงขาดแคลนแรงงานโดยใช้เทคโนโลยีดัดแปลงให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิต นำมาทดแทนแรงงานที่ขาดแคลน

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านมาตรการโครงการต่างๆ เช่นโครงการบ้านหลังแรกให้กับประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติของประชาชน ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในเรื่องของการขายสินค้าเกษตรอุปสงค์และอุปทานซึ่งเป็นตัวแปรทำให้ผลผลิตมีราคาสูง ต่ำ แต่ที่สำคัญคืออยากให้ทุกคนยึดหลักแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง 

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ช่วยเหลือมากที่สุด มากกว่าหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะมาตรการขายข้าวให้ครบวงจร โดยเฉพาะการจัดหาตลาดกลางเพื่อขายสินค้าเกษตร ให้ความเป็นธรรมและทั่วถึง ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรนำไปสู่ความมั่นคงยั่งยืน แก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สิน และให้เกษตรกรมีหลักคิดปลูกพืชอย่างระมัดระวัง ส่งเสริมปลูกพืชเศรษฐกิจมากกว่าการปลูกพืชหมุนเวียน

นายกฯ กล่าวว่า ยอมรับว่าราคาข้าวผันผวนตลอดเวลาเนื่องจากต้องแข่งขันกับต่างประเทศ โดยเฉพาะข้าวในประเทศไทยที่มีราคาสูง สู้ราคาตลาดโลก ที่ราคาต่ำไม่ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิต ให้มีกำไร โดยเรื่องนี้รัฐบาลไม่เคยหยุดคิด เน้นในเรื่องของการปลูกข้าวที่มีคุณภาพและมีตลาดรองรับ พร้อมผลักดันนโยบายให้เกษตรกรเป็น Smart farmer ติดตามต้นแบบที่ปลูกข้าวได้มีราคาด้วยการสร้างกระบวนการเรียนรู้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือทำงานเพื่อเกษตรกร และกำชับให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ พร้อมกล่าวอวยพรในโอกาสปีใหม่ ขอให้ชาวสุพรรณบุรีทุกคนมีความสุข มีแต่ความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป ขอบคุณท้องถิ่นทุกหน่วยงาน ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนหลักคิด ว่าทำอย่างไรจะให้เกิดความยั่งยืน ตนอยากให้ทุกคนมีรอยยิ้ม จะทำให้ตนมีความสุขแต่ถ้ายัง ต้องช่วยกันอยู่แบบทุกวันนี้ 

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ยินดีที่ได้มาพบกัน เห็นบ้านเมืองสะอาด ก็ต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดขอบคุณรัฐมนตรีทุกคน ขอบคุณหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา 

"ผมไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคใด แต่เป็นนายกรัฐมนตรี มาได้ทุกพรรค จะพรรคร่วมหรือไม่ร่วมเพราะผมมาดูแลประเทศไทย นี่คือแผ่นดินของเรา ฟังเพลงแล้วใช่ไหม ทุกคนต้องปรับใจของเราให้มันสู้ ต้องสู้ๆ ถ้ารู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว ใจมันจะไป ถ้าใจไป ร่างกายก็ป่วย ผมคิดอย่างนี้ผมเองก็ต้องระมัดระวังที่สุด ใจอย่าป่วย ถ้าใจป่วยกายก็ป่วยไปด้วย ก็ตายกันพอดี ทำอะไรไม่ได้สักอย่างให้กับพวกเรา" นายกฯ กล่าว

จากนั้น นายกฯ ได้พบปะเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการรวบรวมข้าวเปลือก จากสมาชิกสหกรณ์ตามโครงการมาตรการคู่ขนานในพื้นที่ดําเนินงานของตลาดกลางสินค้าเกษตรสุพรรณบุรี 

ก่อนเดินทางไปรับประทานมื้อเที่ยงที่บ้านนายประภัตร จากนั้นจึงเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยนายประภัตร และชาวบ้านส่วนหนึ่ง สวมเสื้อยืดสกรีนรูป พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมข้อความว่า เรารัก...ลุงตู่ โดยในบางช่วง นายประภัตร รับบทพิธีกร นำชาวบ้านตะโกน เรารักลุงตู่ อีกด้วย