“เพื่อไทย” จี้ “ประยุทธ์” เร่งเตรียมพร้อม รองรับ "รถไฟความเร็วสูง จีน-ลาว"

“เพื่อไทย” จี้ “ประยุทธ์” เร่งเตรียมพร้อม รองรับ "รถไฟความเร็วสูง จีน-ลาว"

ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ชี้ "ไทย" ช้าไม่เร่งพัฒนาพื้นที่ รองรับโอกาสทางเศรษฐกิจ จากรถไฟความเร็วสูง จีน-ลาว ห่วงความล่าช้าทำไทยเสียโอกาส

        นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวแล้ว แต่เศรษฐกิจไทยยังคงย่ำแย่ ปีนี้ไทยจะขยายตัวได้เพียง 1% ซึ่งต่ำมาก หลังจากปีที่แล้วเศรษฐกิจไทยทรุดหนักถึง -6.1% ดังนั้นไทยจะต้องหาทุกวิธีทางในการฟื้นเศรษฐกิจ   ทั้งนี้ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะเปิดเดินรถรถไฟความเร็วสูง ลาว-จีน อย่างเป็นทางการ ด้วยโอกาสทางธุรกิจ โอกาสทางเศรษฐกิจ การขนส่ง การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมไปถึงการพัฒนาในทุกๆ ด้าน อาทิเช่น ด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านเทคโนโลยีต่างๆ รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะมาพร้อมกับรถไฟความเร็วสูงโครงการนี้ จะทำให้ประเทศลาว มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน คำถามที่สำคัญที่อยากฝากถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประเทศไทยของเรา จะตกรถไฟขบวนนี้หรือไม่

         "โครงการรถไฟความเร็วสูงนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นหนึ่งใน เมกะโปรเจ็ค ที่หลายรัฐบาล มีการวางแผน และทำการศึกษา เกือบที่จะได้ทำสำเร็จในสมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งในตอนนั้นหากได้มีการลงมือทำ ก็จะแล้วเสร็จในปี 2020 หรือปี 2563 ซึ่งก็คือ ปีที่แล้ว และจะเชื่อมกับรถไฟลาว-จีน ที่จะเปิดในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ได้พอดี และจะทำให้ การขนส่งสินค้าระบบราง ตรงจากกรุงเทพ-คุณหมิง การท่องเที่ยว การค้า การลงทุนต่างๆ โอกาสทางธุรกิจมหาศาลจะตามมาอย่างแน่นอน แต่หากวันนี้ ประเทศไทยไม่รีบฉวยโอกาสลงมือทำอะไร ไทยจะเสียโอกาสอย่างมาก และจะทำให้ไทยถอยหลังและล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านอย่างแน่นอน" ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าว

         นายกฤษฎา กล่าวด้วยว่าปัจจุบันตนยังไม่เห็นเลยว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมเรื่องดังกล่าว ทั้งการเร่งสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ให้แล้วเสร็จ เพื่อรองรับปริมาณรถขนส่ง รถโดยสารและรถไฟในอนาคตก็ยังไม่เกิด แม้แต่ CY หรือ Container Yard ที่จะมารองรับการขนส่งสินค้าและลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการก็ยังไม่แล้วเสร็จ การเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจากจีน ลาว เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ก็ดูจะยังไม่พร้อม โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ดูจะล่าช้าไปหมด ทั้งพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษในจังหวัดหนองคาย ก็ยังมีแต่ชื่อเหมือนเดิม วันนี้เราได้แต่รอคอยแต่ไม่มีการดำเนินการ 

 

          "เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมากที่ทุกวันนี้ ประเทศไทยไม่เพียงไม่ดึงดูดนักลงทุน แต่หากนักลงทุนไทยเองกลับไหลออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะรอไม่ไหวจริงๆ กับการพัฒนาที่ล่าช้าและไม่ตรงทิศทางโลก เพราะความไม่เข้าใจเศรษฐกิจของรัฐบาลในปัจจุบัน ภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไทยจะต้องเสียหายและถอยหลังไปอีกนานแค่ไหน" นายกฤษฎา กล่าว.