ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเพิ่มขึ้น 65 เซนต์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส  ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 79.01 ดอลลาร์/บาร์เรล  ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ ปิดที่ 81.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

สื่อรายงานว่า ในการประชุมทางไกลระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน.ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐต้องการให้จีนเข้าร่วมในการระบายน้ำมันดิบออกจากคลังสำรอง และขณะนี้หน่วยงานด้านพลังงานของสหรัฐและจีนกำลังหารือกันเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ สหรัฐมีน้ำมันดิบอยู่ในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) มากที่สุดในโลกถึง 727 ล้านบาร์เรล ขณะที่จีนมีน้ำมันสำรองอยู่ประมาณ 200 ล้านบาร์เรล ซึ่งหากทั้งสองประเทศระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบยังถูกกดดันจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เปิดเผยว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกจะชะลอตัวลงในอนาคต เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นได้ดึงดูดให้การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ไออีเอ ระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐ แม้ว่าได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็จะยังไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 จนกว่าจะถึงช่วงปลายปี 2565
"ตลาดน้ำมันโลกยังคงตึงตัว แต่เราก็เริ่มมองเห็นว่าราคาจะชะลอตัวลง อันเนื่องจากปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้น" รายงานของไออีเอ ระบุ