"โควิด-19" ปัตตานี ติดเชื้อพุ่ง 434 ราย ห่วงผู้ป่วยหนักเพิ่มไม่หยุด

สถานการณ์ COVID-19 ปัตตานี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 434 ราย เสียชีวิต 3 ราย ห่วงผู้ป่วยหนักเพิ่มไม่หยุด เป็นผู้สูงอายุรับเชื้อคนในครอบครัว

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่ผ่านมามีแนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลง แต่ล่าสุดกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อวานนี้ (11 พ.ย. 64) พุ่งอีก 434 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 3 ราย ทำให้ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 42,311ราย รักษาหาย 25,410 ราย และเสียชีวิตสะสม 404 ราย และที่น่าเป็นห่วงคือผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงที่มีเพิ่มขึ้นทุกวัน นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานีจำนวน 202 ราย ซึ่งแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากผู้ป่วยหลายคนเชื้อลงปอดขั้นรุนแรงและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยที่ผ่านมาพบว่าจังหวัดปัตตานีมีผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง วันละ 2-3 ราย และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่รับเชื้อจากคนในครอบครัว

ส่วนประเด็นที่มีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงอีก โดยหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าสาเหตุเป็นเพราะการรักษาตัวแบบ home isulation หรือกักตัวที่บ้าน เนื่องจากหลายพื้นที่การจัดการไม่ดี ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล ทำให้ผู้ติดเชื้อแอบออกมาเดินเพ่นพ่านนอกบ้าน โดยเฉพาะวัยรุ่นแอบเที่ยวกัน ทั้งๆที่ตนเองมีเชื้ออยู่ ทำให้การตรวจเชื้อแบบATK ให้กับชาวบ้านนั้น ปรากฏว่ายิ่งตรวจเชื้อก็ยิ่งเจอไม่หยุด ทั้งนี้จังหวัดปัตตานีก็ไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นอกจากนี้ ตลาดสดต่างๆ ในหลายอำเภอของจังหวัดปัตตานี มีชาวบ้านทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล็กไม่สวมหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดคลัสเตอร์ตลาดสด

ขณะที่ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด19 ศบค.ส่วนหน้า ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี แม่ทัพภาคที่4 ผู้นำศาสนา และหน่วยงานราชการที่เกี่ยว เพื่อติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 พร้อมทั้งสั่งให้ทุกฝ่ายบรูณาการร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ต้องทำงานประสานสอดคล้องกัน และกำชับให้มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในตราร้อยละ 70 ของประชากร โดยตั้งเป้าวันที่ 15 ธันวาคม เตรียมเปิดประเทศฝั่งชายแดนภาคใต้ให้ได้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อตอนรับช่วงปีใหม่ที่จะมาถึง แต่ทั้งนี้เมื่อถึงเวลาดังกล่าว ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจขอผู้ว่าราชจังหวัดปัตตานีในการหารือกับทุกฝายว่าสามารถทำได้หรือไม่