"บิ๊กโจ๊ก" ขึ้นเมืองเลย ปราบหนี้นอกระบบ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.และคณะลงพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เพื่อปฏิบัติการ ศูนย์ป้องกันปราบปรางการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ตำรวจกูธรภาค 4   "สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ การข่มขู่เอารัดเอาเปรียบประชาชน "ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 มี พ,ต.ต.สุรชัย  สัขพัฒน์  ผบก.ภ.จว.เลย  พร้อมคณะให้การต้อนรับและร่วมตรวจค้นพื้นที่เป้ามาย 

 

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำหยุดการข่มขู่เอารัดเอาเปรียบประชาชนตำรวจภูธรภาค 4  รวม ครั้งนี้ 3 จังหวัด 6 เครือข่าย 14 จุดตรวจค้นนายทุน 3 เครือข่าย 9 จุดตรวจค้น จ.เลย  ที่ อ.เชียงคาน อ.ปากชม อ.วังสะพุง จ.เลย 9  จุด    ส่วนของอุดรธานีนายทุน 1 เครือข่าย 3 จุดตรวจค้น อ.วังสามหมอ จำนวน 3 จุด และ จ.ร้อยเอ็ด ทุน 2 เครือข่าย 2 จุดตรวจค้น อ.เมืองร้อยเอ็ด จำนวน 2 จุด

 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า   ศูนย์ป้องกันปราบปรางการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกร ตำรวจกูธรภาค 4  ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายดำเนินการปราบปราม กระทำความเดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิด  

โดยมี พลตำรวจเอกวิเมตตา  รองผู้บัญชาการดำรวจแห่งซาติ เป็นผู้ยำนวยการศูนย์ฯๆ และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์"

โดยในวันนี้  ได้ประสานการปฏิบัติกับ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4  พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย พล.ต.ต.ไพโรจน์   มังคลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด

และ พล.ต.ต.พิษณุ อุณทเสรี  ผู้บังคับการดำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ดำเนินการภายใต้ยุทธการ "สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ หยุดการชมขู่เอารัดเอาเปรียบประชาชน" ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปีดล้อมตรวจค้นกลุ่มนายในเงินผู้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประซาซนใน พื้นที่จังหวัดเลย ร้อยเอ็ด และอุดรธานี  ซึ่งมีเป้าหมายกลุ่มนายทุน จำนวน 6 เป้าหมาย

เข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ จำนวน 14 จุด   ส่วนการแก้ปัญหานั้น  ได้ประสานสถาบันการเงินให้แล้วจะมาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกนี้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำตามกฎหมาย พร้อมกับจะดำเนินการกับกลุ่มนายทุนให้ถึงที่สุด

สรุปการตรวจค้นครั้งนี้ ทำการ  ตรวจยึดโฉนดที่ดิน รวมจำนวน 55 ฉบับ เนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ 2 งาน ราคาประเมิน 20 ล้านบาท  ,ตรวจสัญญาขายฝาก/สัญญากู้เงิน รวมจำนวน 66 ฉบับ  โดยมีพฤติกรรมของนายกุนปล่อยเงินกู้ รับจำนำรถ และเป็นนายหน้า ติดต่อประชาชน ที่ต้องการขายฝากที่ดิน  ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด รายวันร้อยละ 20/1รอบ (24 วัน)  รับจำนำรถจักรยานยนต์ คันละ 8,000-10,000 บาท รถยนต์ คันละ 80,000 บาท โดยให้ลูกค้า เซ็นเอกสารเปล่า (สัญญาซื้อขายกันไว้)    ปล่อยเงินกู้โดยการนำเอกสารสิทธิต่างๆ / โฉนดที่ดิน มาวางค้ำประกัน ร้อยละ 3 ต่อเดือน เมื่อจ่ายไม่ไหว หรือถ้าหากต้องการเงินมากขึ้น จะแนะนำให้ทำสัญญาขายฝาก โดยจะเป็นผู้จัดหานายทุนให้นายทุนปล่อยเงินกู้ รับจำนำรถ และเป็นนายหน้า ติดต่อประชาชน ที่ต้องการขายฝากที่ดิน

 

วันนี้มีลุกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีนายทุนโหดจาก อ.เชียงคานและ อ.ปากชม  มาร้องเรียนพร้อมมอบดอกกุหลาบให้กับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาลและคณะ ด้วย  ซึ่งบางรายกล่าวว่า  ได้ไปขอกู้เงินจากนายทุนมาเมื่อปี 2556  จำนวน 50,000  แต่มาถึงวันนี้ยอกเงินกู้ของตนสูงกว่า 1  ล้านบาท  นายทุนบอกงว่าใครไม่มีเงินมาใช้คืนจะต้องนำรถยนต์ จักรยานยนต์ ทรัพย์สินอื่นๆ มาจำนองไว้  และยอดเงินกู้จะสูงขึ้นทุกๆปี