อ่วม! ผู้ต้องขังเรือนจำ-ทัณฑสถานโคราช ป่วยเพิ่ม 452 ราย สะสม 1,793 ราย

สถานการณ์ COVID-19 พื้นที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุด พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ในเรือนจำกลางนครราชสีมาและทัณฑสถานหญิง อ.สีคิ้ว รวม 452 ราย ป่วยสะสม 1,793 ราย

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 64 ที่ห้องประชุมสำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา พร้อม นายแพทย์วิชาญ คิดเห็น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมผ่านเครือข่าย (Web Conference) โปรแกรม ZOOM ระเบียบวาระการดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดต่อในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ

รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยรายใหม่ ราย เป็นผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 4 ราย และสัมผัสผู้ป่วยในพื้นที่ 60 ราย รวม ผู้ป่วยสะสม 30,645 ราย รักษาหาย 28,641 ราย ยังรักษาอยู่ 1,769 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายอายุ 68 ปี ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง รวมผู้เสียชีวิตสะสม 235 ราย และการติดเชื้อในเรือนจำกลางและทัณฑสถานจำนวน 6 แห่ง ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบผู้ต้องขังป่วยรายใหม่ในเรือนจำกลางนครราชสีมาและทัณฑสถานหญิง อ.สีคิ้ว รวม 452 ราย ป่วยสะสม 1,793 ราย

นายชัยบุญ ชัยสิริเจริญสัมพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครราชสีมา เปิดเผยว่า การดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดได้รับการสนับสนุนทั้งบุคลากรทางการแพทย์และวัสดุ อุปกรณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี โดยนำผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงมาทยอยเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งในโพรงจมูกนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อตรวจ RT-PCR ยืนยันการติดเชื้อ ล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่ 435 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังในแรกแรกรับ รวมป่วยสะสม 1,295 ราย กรณีพบผู้ป่วยจะนำให้พักรักษาในเรือนนอนซึ่งปรับสภาพแวดล้อมเป็นโรงพยาบาลสนามทันที ซึ่งมีเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วและเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายไว้ประจำทุกห้อง พร้อมจัดยาฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังในแดนแรกรับกินครั้งละ 3 เม็ด วันละ 3 เวลาก่อนอาหารเป็นเวลา 5 วัน รวมทั้งนำผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัวและสูงอายุเข้ารับการตรวจเอ็กซ์เรย์ปอดพบเชื้อลงปอด 12 ราย โดยมี 5 ราย เป็นผู้ป่วยสีแดงได้เคลื่อนย้ายนำไปรักษาที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา และอีก 7 ราย เป็นผู้ป่วยสีเขียวรักษาที่ รพ.เดอะโกลเด้นเกทโคราช ส่วน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีจำนวน 3 ชุด ก่อนเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ต้องตรวจหาเชื้อ RT-PCR และอยู่ในสถานที่ทำงานเป็นเวลา 7 วัน เมื่อครบกำหนดก่อนออกมาข้างนอกต้องผ่านการตรวจเชื้อซ้ำอีก นอกจากนี้ได้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงญาติผู้ต้องขัง ช่วงนี้งดเยี่ยมญาติส่วนผู้ต้องขังที่มีอาการป่วยจะได้รับการรักษาตามาตรการสาธารณสุข