เปิดหลักเกณฑ์! ‘เยียวยาเกษตรกร’ รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2564

เปิดหลักเกณฑ์! ‘เยียวยาเกษตรกร’ รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2564

"เยียวยาเกษตรกร" เช็คหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการช่วยเหลือ "เกษตรกร" ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2564

ตามที่มีการนำเสนอข่าวสารประเด็นเรื่อง หลักเกณฑ์ช่วยเหลือ "เยียวยาเกษตรกร" ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2564  ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การช่วยเกษตรกร โดยยึดตาม “หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ ด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564”

ซึ่งเป็นไปตาม ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น จะดำเนินการช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลแต่ละด้านของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อนเกิดภัยพิบัติแล้วเท่านั้น

ทั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม และตรวจสอบได้ โดยที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการแจ้งให้เกษตรกรทั้งด้านพืชปศุสัตว์ ประมง ขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน ตามกรอบระยะเวลาการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เพื่อสิทธิประโยชน์เกษตรกร และยืนยันสถานภาพ ในการรับการช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐบาล

หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการช่วยเหลือ ประกอบด้วย

ด้านพืช  ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ได้แก่

  • ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท
  • พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท
  • ไม้ผล ไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท

ด้านประมง (สัตว์น้ำ) ได้แก่

  • ปลาทุกชนิด/สัตว์น้ำอื่น ไร่ละ 4,682 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่
  • กุ้ง/หอยทะเล ไร่ละ11,780 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่
  • กระชัง/บ่อซีเมนต์ตรม. ละ 368 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตรม.

ด้านปศุสัตว์ ได้แก่

  • โค ตัวละ 13,000 – 35,000 บาท (ไม่เกินรายละ 5 ตัว)
  • กระบือ ตัวละ 15,000 – 39,000 บาท (ไม่เกินรายละ 5 ตัว)
  • สุกร ตัวละ 1,500 – 3,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว)
  • แพะ/แกะ ตัวละ 1,500 – 3,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว)
  • ไก่พื้นเมือง/ไก่งวง ตัวละ 30–80 บาท (ไม่เกินรายละ 300 ตัว)
  • ไก่ไข่/เป็ดไข่ ตัวละ 30 – 100 บาท รายละไม่เกิน 1,000 ตัว)
  • ไก่เนื้อ ตัวละ 20 – 50 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว)
  • เป็ดเนื้อ/เป็นเทศ ตัวละ 30 – 80 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว)
  • นกกระทา ตัวละ 10 – 30 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว)
  • นกกระจอกเทศ ตัวละ 2,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว)
  • ห่าน ตัวละ100 บาท (ไม่เกินรายละ 300 ตัว)

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายทุกหน่วยงานในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ และหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว จะได้มีการลงพื้นที่สำรวจต่อเนื่อง ให้คำแนะนำเกษตรกร ทั้งการวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ สนับสนุนพันธุ์ไม้ผล ไม้ยืนต้น เมล็ดพันธุ์ผัก สารชีวภัณฑ์ เป็นต้น

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.moac.go.th หรือโทร 02-2815955

 

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์