ตรวจราชการพร้อมมอบ ส.ป.ก.4-01 ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ จ.ตรัง

ตรวจราชการพร้อมมอบ ส.ป.ก.4-01 ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ จ.ตรัง

เลขาธิการ ส.ป.ก. ร่วมติดตาม รมว.กษ. และคณะตรวจราชการพร้อมมอบ ส.ป.ก.4-01 ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ จ.ตรัง

วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. ร่วมติดตาม ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กษ. พร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ตรัง โดยมีนายเอกพงศ์ น้อยสร้าง รองเลขาธิการ ส.ป.ก., นายภาชน์ จารุภุมมิก หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม ส.ป.ก., นายปราโมทย์ ยอดแก้ว ผู้ตรวจราชการกรม ส.ป.ก., นายสุรชัย ยุทธชนะ ผู้อำนวยการสำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน, นายปัญญา สุ้นกี้ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดตรัง, นายปราโมทย์ ใสจุล ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่, นายอารักษ์ รัตนบุรี ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสตูล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ณ พื้นที่โครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จ.ตรัง

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจราชการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กษ. และคณะในวันนี้ นอกจากเป็นการติดตามความก้าวหน้าโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง การมอบวัสดุปัจจัยทางการเกษตร และร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงแหล่งน้ำธรรมชาติแล้ว รมว.กษ. ได้ให้เกียรติเป็นประธานในการมอบ ส.ป.ก. 4-01 แก่ตัวแทนเกษตรกร จำนวน 10 ราย 10 แปลง เนื้อที่รวมทั้งสิ้น 77-0-52 ไร่ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกรผู้ใด้รับการจัดที่ดินและสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านสิทธิและหน้าที่ของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินอีกด้วย

ตรวจราชการพร้อมมอบ ส.ป.ก.4-01 ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ จ.ตรัง

ทั้งนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดตรัง (ส.ป.ก.ตรัง) มีพื้นที่ดำเนินการปฏิรูปที่ดิน จำนวน 354,671 ไร่ มอบ ส.ป.ก. 4-01 แล้วจำนวน 23,494 ราย 29,284 แปลง เนื้อที่ 302,095 ไร่ ซึ่งคงเหลือพื้นที่ยังไม่ดำเนินการประมาณ 32,000 ไร่ และในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา ส.ป.ก.ตรัง มีแผนงานมอบ (ส.ป.ก. 4-01) จำนวน 324 ราย สามารถดำเนินการมอบ ส.ป.ก. 4-01 ให้เกษตรกรได้จำนวน 453 ราย 543 แปลง เนื้อที่ประมาณ 4,993 ไร่ 

หลังจากนั้น เวลา 11.30 น. รมว.กษ. และคณะ เดินทางต่อไปยังพื้นที่ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำย่านตาขาว ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำย่านตาขาว ซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถบริหารจัดการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งยังสามารถเป็นแหล่งเก็บกักน้ำ เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกรสำหรับทำการเกษตรกรรมในพื้นที่ได้อีกด้วย