โควิดวันนี้ ชลบุรีติดเชื้อเพิ่ม 434 เสียชีวิต 3 ราย

โควิดวันนี้ ชลบุรีติดเชื้อเพิ่ม 434 เสียชีวิต 3 ราย

ตรวจสอบ โควิดวันนี้ ชลบุรีติดเชื้อเพิ่ม 434 เสียชีวิต 3 ราย

วันนี้ 15 ต.ค. 64 มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จังหวัดชลบุรีจำนวน 434 ราย เสียชีวิต 3 คน รายละเอียด ดังนี้

1. Cluster เขตพื้นที่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ 64 ราย สะสม 1,291 ราย
    1.1 ทหารเกณฑ์ 54 ราย
    1.2 ข้าราชการทหารเรือ 10 ราย
2. Cluster บริษัท ซิงหวอไท่ จำกัด อำเภอบางละมุง 5 ราย สะสม 5 ราย
3. Cluster แคมป์ก่อสร้าง บริษัท อ่างทอง บิวดิ้ง จำกัด อำเภอบางละมุง 4 ราย สะสม 4 ราย
4. Cluster บริษัท แวนด้าแพค จำกัด อำเภอเมืองชลบุรี 4 ราย สะสม 244 ราย
5. สถานประกอบการในจังหวัดระยองหลายแห่ง 29 ราย สะสม ราย
6. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 5 ราย
7. บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย
8. ให้ประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด (จังหวัดระยอง) 6 ราย
9. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
    9.1 ในครอบครัว 121 ราย
    9.2 จากสถานที่ทำงาน 74 ราย
    9.3 บุคคลใกล้ชิด 19 ราย
    9.4 ร่วมวงสังสรรค์ 2 ราย
10. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 26 ราย
11. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 73 ราย

การระบาดของโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มจากแหล่งสถานบันเทิง สู่ครอบครัว มาสู่เพื่อนร่วมงาน มาสู่ชุมชนที่พักอาศัยพนักงาน แรงงาน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงมาจากการทานข้าวร่วมกัน หรือมีกิจกรรมใกล้ชิด สังสรรค์แม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็ก 2-3 คนในเพื่อนสนิท 

ทำให้เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) ในที่มีผู้คนรวมตัวกัน ทั้งในในสถานประกอบการ ตลาด แคมป์คนงานก่อสร้าง และชุมชนที่พักอาศัย ค่อยทหาร

ขอความร่วมมือ แหล่งชุมชุมชนดังนี้

ตลาด
1. ผู้ค้าหรือลูกจ้าง ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ค้าหรือลูกจ้างร้านอื่น ๆ ไม่ทานอาหารใกล้ชิดด้วย 
2. ไม่สังสรรค์
3. ป่วยต้องหยุด
4. ทำความสะอาดห้องน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะจุดสัมผัสร่วม หลังออกจากห้องน้ำต้องล้างมือทุกครั้ง ไม่ใช้มือจับหน้าโดยไม่ล้างมือ 
5. ใส่แมสก์ตลอดเวลา 
6. เมื่อมีผู้ติดเชื้อในตลาด หากมีการตรวจเชิงรุก ขอให้รับการตรวจเชิงรุกทุกคน 
7. เมื่อมีการปิดตลาด ขอความร่วมมือผู้สัมผัส หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้หยุดอยู่บ้าน
8. ไม่รับแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่เสี่ยง
9 มีการสุ่มตรวจ ATK สม่ำเสมอ

โควิดวันนี้ ชลบุรีติดเชื้อเพิ่ม 434 เสียชีวิต 3 ราย

สถานประกอบการ
1. ไม่สังสรรค์ ไม่ตั้งวงดื่มเหล้า
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที 
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน 
6 สุ่มตรวจ ATK สม่ำเสมอ

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ 

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม 
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้ 

ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ไหว และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี

ค้นให้มาก กักให้ดี ชีวิตวิถีใหม่ ร่วมใจฉีดวัคซีน

1 ค้นให้มาก สถานที่ให้บริการประชาชน แหล่งชุมนุมชน ต้องมีการคัดกรองด้วย ATK สม่ำเสมอ ประชาชนที่มีอาการหรือสงสัยสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้มีการตรวจ ATK คัดกรอง

2 กักให้ดี ผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อให้กักตัวให้ดี ผู้ติดเชื้อต้องแยกกัก ไม่ให้แพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

3 ชีวิตวิถีใหม่ ทุกคนต้องเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล อยู่ห่างกัน หมั่นล้างมือ แมสก์ต้องใส่  เขื้อเข้าทาง จมูก ปาก ตา ต้องไม่จับหน้า โดยไม่ล้างมือ ทุกคนต้องสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์ที่โควิด-19 ยังคงต้องหลงเหลือ ( smart living with covid-19 )และอาจกลายเเป็นเชื้อประจำถิ่น สถานที่ให้บริการประชาชน ต้องมีมาตรการควบคุมปัองกัน ( covid-19 free setting)

4 ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน 
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ทั้ง 3 รายของวันนี้ มีอายุเฉลี่ย 67 ปี เป็นผู้สูงอายุทุกราย  ซึ่งสัมผัสในครอบครัวของผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า มีปัจจัยเสี่ยงร่วมที่ทำให้ความรุนแรงของโรคที่นำไปสู่การเสียชีวิต คือการมีโรคประจำตัว ได้แก่ ความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง   โรคหลอดเลือดสมอง และทุกรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน ดังนั้น การฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยหนัก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้มีอัตราป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 มากกว่ากลุ่มอื่น