จับตาประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 14 ต.ค. ปรับเวลา “เคอร์ฟิว” - ผ่อนคลายมาตรการ

จับตาประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 14 ต.ค. ปรับเวลา “เคอร์ฟิว” - ผ่อนคลายมาตรการ

จับตาประชุม “ศบค.ชุดใหญ่” 14 ต.ค. ปรับเวลา “เคอร์ฟิว” เป็น 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับระดับสีพื้นที่ควบคุม ผ่อนคลายมาตรการจัดแสดงงานในศูนย์สินค้า-ห้าง-โรงแรมได้ รับลูก “นายกฯ” ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2564 มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศบค.) จะเป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 14 ต.ค. 2564 โดยวาระการประชุมสำคัญคือ จะมีพิจารณาแนวทางและมาตรการการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ตามที่นายกรัฐมนตรี ประกาศไว้ว่าจะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย. 2564 โดยเบื้องต้นได้กำหนดไว้ที่ 10 ประเทศความเสี่ยงต่ำก่อน ซึ่งเบื้องต้นมีประเทศ อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา ส่วนอีก 5 ประเทศ ศบค. จะพิจารณาในรายละเอียด หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม ปัจจัยหลักคือ จำนวนผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศ

อ่านข่าว : ‘จุรินทร์’ หนุนนายกฯเปิดประเทศฟื้นท่องเที่ยว

ขณะเดียวกันที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จะมีประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากผ่อนคลายและปรับมาตรการกิจการกิจกรรมต่าง ๆ มาครบ 14 วัน โดยศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาปรับระดับสีใหม่ ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือสีแดงเข้ม เหลือ 24 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง 29 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมหรือสีส้ม 24 จังหวัด

นอกจากนี้ ศปก.ศบค. จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) โดยเสนอให้ขยับเวลาจากเดิม 22.00-04.00 น. เป็น 23.00-03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ไปอีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-31 ต.ค. 2564 
 

ส่วนกิจการกิจกรรมในพื้นที่สีแดงเข้ม จะเสนอให้ผ่อนคลายและปรับมาตรการคือ ให้สามารถจัดการประชุมรวมถึงงานประเพณีในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ และสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมได้ โดยปรับจำนวนการรวมกลุ่มคนตามระดับพื้นที่สี 

สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน พื้นที่เฝ้าระวังระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน รวมถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการกิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.

นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาสูตรฉีดวัคซีนแบบไขว้ คือฉีดแอสตราเซนเนกาตามด้วยไฟเซอร์ อีกทั้งจะมีเสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรการแนวทางการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวันที่ 1 พ.ย. 2564 รวมถึงความพร้อมด้านต่างๆ ก่อนที่จะอนุญาตเปิดสถานบันเทิงให้ดื่มกินได้วันที่ 1 ธ.ค. 2564 โดยข้อเสนอเหล่านี้ ต้องรอมติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 14 ต.ค. 2564 ต่อไป