"ขจิตร" เผย กมธ.กฎหมายตำรวจ เร่งพิจารณา ขีดเส้น "พ.ย." นี้เสนอรัฐสภา

"ขจิตร" เผย กมธ.กฎหมายตำรวจ เร่งพิจารณา ขีดเส้น "พ.ย." นี้เสนอรัฐสภา

กมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มอบอนุฯ พิจารณารายละเอียด3หมวดสำคัญ พร้อมเดินทางถกเรื่องค่าตอบแทน "ขจิตร" เผยปฏิทิน ทำงาน พ.ย.นี้ พิจารณาเสร็จ - เสนอให้ ประธานรัฐสภา

           ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ รัฐสภา ที่มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เร่งรัดการพิจารณา โดยจัดประชุมพิจารณาเนื้อหา 3 วันต่อสัปดาห์เป็นครั้งแรก 

 

           สำหรับผลการพิจารณาเบื้องต้น นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.ฯ  เปิดเผยว่ากมธ.ฯ ได้มอบหมายให้อนุกรรมาธิการฯ พิจารณาเนื้อหา จำนวน 3 หมวด คือ

หมวด 1  ว่าด้วยการจัดระเบียบราชการข้าราชการตำรวจ ที่วางหลักการให้คำนึงถึงระบบคุณธรรม,

หมวด 2 ตำแหน่งและการดำรงตำแหน่งและ

หมวด3 ว่าด้วยการบรรจุ การแต่งตั้ง และการเลื่อนขั้นเงินเดือน ทั้งนี้อนุกมธ.ฯ จะนัดพิจารณารายละเอียดอย่างต่อเนื่องและคาดว่า ในวันที่ 14 ตุลาคม ที่กมธ.นัดประชุมอีกครั้งจะนำเสนอเนื้อหาให้พิจารณาได้

           นายขจิตร กล่าวด้วยว่า ส่วนกมธ. ชุดใหญ่ ได้พิจารณาต่อในหมวด 4  ว่าด้วยเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และเงินเพิ่มอื่น รวมถึงหมวด 5 การรักษาราชการแทนและปฏิบัติราชการแทน เบื้องต้นในส่วนของหมวด 4 นั้น มีข้อเสนอจากกมธ. รวมถึงตน ที่ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับเงินเดือน ค่าตอบแทนและเงินเพิ่ม นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง โดยยกตัวอย่างจากการให้ค่าตอบแทนของตำรวจชุมชนในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับค่าตอบแทนเมื่อทำงานให้บริการประชาชนทำให้ตำรวจในประเทศญี่ปุ่น มีขวัญกำลังใจ ทำงานหนักเพื่อให้บริการประชาชน

 

           “เงินเดือน ค่าตอบแทน แนบท้ายพระราชบัญญญัตินั้นผมมองว่าทำให้เกิดการปฏิรูปไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัด ใช้แบบบัญชีราชการ ทำให้ตำรวจไร้กำลังใจและยังมีพฤติกรรมขูดรีดประชาชน ดังนั้นสิ่งที่สตช. ต้องคิด คือการออกแบบค่าตอบแทนตามผลงานที่เขาทำ เพื่อให้ตำรวจอยู่และทำงานอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี พร้อมเสนอให้ดูตัวอย่างจากต่างประเทศ โดยไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของการงบประมาณของประเทศ” นายขจิตร กล่าว

 

           เมื่อถามว่าในหมวดค่าตอบแทนนั้นกำหนดให้มีเงินเพิ่มตามการพิจารณา ครม.ได้ และตามภาวะเศรษฐกิจไม่เพียงพอใช่หรือไม่ นายขจิตร กล่าวว่า “ไม่มีใครคิดจะใช้กฎหมายเพื่อปฏิรูป และหลายเรื่องเนื้อหามีความล้าหลัง”

 

           เมื่อถามถึงแผนการทำงาของกมธ. นายขจิตร กล่าวว่า กมธ.ฯ กำหนดแผนการทำงาน และจะเสนอให้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเพื่อพิจารณาบรรจุในวาระพิจารณาในการประชุมสภาฯ สมัยหน้า คือ เดือนพฤศจิกายน ส่วนตัวมองว่ากมธ.ควรเร่งทำงานให้เสร็จก่อน 15 พฤศจิกายน เพื่อนำเสนอให้รัฐสภาพิจารณาวาระสอง ซึ่งการเร่งรีบให้กมธ.ฯ​ทำงานนั้น ต้องมีความรอบคอบ

 

 

           ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. ฐานะกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจ ระบุไว้ก่อนหน้านั้นว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มี 3 ประเด็นหลักที่คิดเห็นต่างกัน คือ 1.   องค์กรบริหารงานขององค์กรตำรวจจะมี เพียง ก.ตร. ตามร่างที่รัฐสภารับหลักการมา หรือจะให้มี ก.ตช. ด้วย , 2.กฎเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย จะใช้ ‘ระบบแบ่งกอง’ สัดส่วนอาวุโส : ความเหมาะสม 33 : 67 และ 50 : 50 คล้ายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หรือ ‘ระบบคะแนนประจำตัว’ สำหรับทุกตำแหน่ง ที่เคยอยู่ในร่างฉบับอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ และ 3. สายงานสอบสวน จะให้เหมือนสายงานอื่น ๆ ตามร่างที่รัฐสภารับหลักการมา หรือแยกการบริหารงานบุคคลและงานสำนวนคดีเป็นแท่งเฉพาะมีผู้บังคับบัญชาของตนเองเป็นการเฉพาะ ที่เคยอยู่ในร่างฉบับอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์