เปิด 5 จังหวัดแรก นักเรียนประสงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19มากสุด

เปิด 5 จังหวัดแรก นักเรียนประสงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19มากสุด

วัคซีนไฟเซอร์รุ่นรัฐสั่งซื้อ ส่งมอบล็อตแรกแล้ว 2 ล้านโดส เตรียมใช้ฉีดนักเรียน “อนุทิน” เผย จีนแจ้งความจำนงบริจาคซิโนแวคเพิ่ม 1.5 ล้านโดส ส่งเอกสารถึงไทยแล้ว คร.แจ้ง 5 จังหวัดแรกนักเรียนแจ้งประสงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19มากที่สุด

   เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัท ดีเอชแอล เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ  นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ. โอภาส  การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค  และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค รับวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 2,000,700 โดส   โดยเป็นล็อตที่รัฐบาลสั่งซื้อ ซึ่งได้รับการขนส่งจากเครื่องบินขนส่งสินค้าของ DHL Express เที่ยวบินที่ 3S- 350 เดินทางถึงประเทศไทย เวลา 4.30 น.
       “เมื่อวัคซีนเข้ามาแล้วนำไปเก็บในคลังสินค้า ที่มีอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส และสุ่มเก็บตัวอย่างไปตรวจสสอบรุ่นการผลิตโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนกระจายไปฉีดในกลุ่มนักเรียน 12 ปีขึ้นไป ประมาณ 5 ล้านคนได้ทันที โดยเริ่มฉีดวันแรก 4 ต.ค.นี้  ส่วนวัคซีนที่เหลือในยอดการสั่งซื้อจะทยอยเข้ามา สัปดาห์ละ 1.5 ล้านโดส โดยรวมเดือนต.ค.เข้ามา 8 ล้านโดส และจะมีปริมาณมากในช่วงปลายเดือนพ.ย.และมากสุดในเดือนธ.ค.จะครบ 30 ล้านโดส”นายอนุทินกล่าว   

     นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางการจีนได้แสดงความจำนงที่จะบริจาควัคซีนซิโนแวคให้กับประเทศไทยอีกจำนวน 1.5 ล้านโดส ขณะนี้ส่งเอกสารแสดงเจตจำนงมาแล้ว การดำเนินหลังจากนี้ยืนยันว่าไม่ล่าช้า ไม่ว่าเป็นประเทศอะไรก็ตาม  ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่ออกมาระบุว่าประเทศไทยปฏิเสธการลงนามรับบริจาควัคซีนไฟเซอร์ จากสหรัฐอเมริกา 1 ล้านโดส ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วยังไม่มีการส่งเอกสารยืนยันมานั้น มีการทำความเข้าใจกันแล้ว    

      ในเดือนต.ค.นอกจากวัคซีนไฟเซอร์แล้ว  ประเทศไทยจะมีแอสตร้าเซนเนก้าราวๆ 10 ล้านโดส ซิโนแวคอีก6-7 ล้านโดส ถือว่ามีวัคซีนมาก ส่วนเรื่องการฉีดนั้น ไม่จำเป็นต้องฉีดให้ได้ถึงวันละ 1 ล้านโดสก็ได้ ทยอยฉีดกันวันละ 7-8 แสนโดส อย่างเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ฉีดได้ 7 แสนโดส วันที่ 27 ก.ย. ฉีดได้ 5 แสนโดส วัคซีนมาก็ทยอยฉีด ไม่ได้มีการนำวัคซีนมาเก็บไว้แต่อย่างใด เพียงแต่ไม่ได้ไปเร่งบุคลากรเพราะทราบว่าทุกคนก็เหนื่อยมาก อีกทั้งการฉีดหลักแสนรายก็ไม่ได้น้อยเลย ดังนั้นขอความเห็นใจจากสื่อมวลชนอย่าตำหนิบุคลากรเพราะไปบั่นทอนกำลังใจ

      การฉีดวัคซีนเข็ม 3 เป็นบูสเตอร์โดสให้คนไทยนั้น จะทยอยฉีดไปทุกคนที่อยู่ในระยะเวลาที่ควรได้รับ โดยเป็นคนที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว ซึ่งมีราว 3-4 ล้านคน ส่วนคนที่ฉีดซิโนฟาร์มนั้น ตอนนี้ต้องผ่านการพิจารณาคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมคุ้มกัน หากเขาข้อมูลเข้ามาก็พร้อมฉีดให้ เพราะเป็นเชื้อตายเหมือนกัน
      แต่กรณีของวัคซีนซิโนฟาร์มนั้น ผู้นำเข้าคือบริษัทไบโอเจนนีเทค ร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ การเก็บข้อมูลหลักฐานเอกสารต่างๆ ก็จะอยู่ที่นั่น อีกทั้งมีกฎหมายที่ใช้ในการตัดสินใจดำเนินแนวทางต่างๆ ได้ เพียงแต่หากมาขอความเห็นชอบจากรกระทรวง และว่าเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์เราก็จัดให้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาถือว่าได้เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้จำนวนมาก ตอนนี้ก็ฉีดไปได้กว่า 10 ล้านเข็มแล้ว

     นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับ ความประสงค์ขอรับวัคซีนนักเรียน/นักศึกษา ปี 2564 อันดับ 1 จังหวัดภูเก็ต มีนักเรียน/นักศึกษา 33,330 ราย ประสงค์รับวัคซีน 33,330 ราย หรือ100 % อันดับ 2 จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีนักเรียน/นักศึกษา 87,612 ราย ประสงค์รับวัคซีน 78,271 ราย หรือ 89.34% อันดับ 3 จังหวัดอุตรดิตถ์ มีนักเรียน/นักศึกษา 28,765 ราย ประสงค์รับวัคซีน 24,984 ราย หรือ 86.86% อันดับ 4 จังหวัดลำพูน มีนักเรียน/นักศึกษา 23,235 ราย ประสงค์รับวัคซีน 20,159 ราย หรือ 86.76% และอันดับ 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนักเรียน/นักศึกษา 36,278 ราย ประสงค์รับวัคซีน 31,475 ราย หรือ 86.76 %

         ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนและนักศึกษา จะเริ่มฉีดวันแรก 4 ตุลาคม 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอมตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาลควบคู่กันไปด้วย เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ให้การป้องกันควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

    ด้านนพ.โสภณ กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ล็อตนี้ เตรียมนำร่องฉีดให้เด็กในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีก่อนเริ่ม 4 -8 ต.ค.นี้ เบื้องต้นประสานโรงเรียนออกหนังสือสำรวจความยินยอมของผู้ปกครองในการให้เด็กรับวัคซีนแล้วและจะใช้สถานที่ฉีดคือห้องพยาบาลในของแต่ละโรงเรียน สำหรับขั้นตอนการฉีดวัคซีนในเด็กเข็ม 1 จะห่างจากเข็ม 2 ประมาณ 4 สัปดาห์ ส่วนข้อกังวลเรื่องผลกระทบในเด็กอาการข้างเคียงนั้นหากอาการแน่นหน้าอกใจสั่นให้รีบแจ้งผู้ปกครองและส่งโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ เงื่อนไขสำคัญของการรับวัคซีนไฟเซอร์ คือต้องงดออกกำลังกาย1-2 สัปดาห์ เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์มีผลเกี่ยวกับเรื่องหัวใจส่วนใหญ่เป็นเฉพาะในเด็กผู้ชาย