สถานการณ์น้ำท่วม "ลพบุรี" อ่วมหนัก "บ้านหมี่-ชัยบาดาล" จมบาดาล

สถานการณ์น้ำท่วม "ลพบุรี" อ่วมหนัก "บ้านหมี่-ชัยบาดาล" จมบาดาล

สถานการณ์น้ำท่วม "ลพบุรี" ยังวิกฤต อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอชัยบาดาล ยังจมบาดาล ขณะเขื่อนป่าสักเร่งระบายน้ำออกท้ายเขื่อนรองรับน้ำเพิ่ม

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานกรณ์น้ำท่วมในจังหวัดลพบุรียังคงอยู่ในขั้นวิกฤตหลังจากที่ถูกน้ำท่วมครบทั้ง 11 อำเภอแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอชัยบาดาล และอำเภอบ้านหมี่ที่จมบาดาลหลังระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เขตเทศบาลลำนารายณ์ของอำเภอชัยบาดาลต้องใช้เรือเข้าออกเนื่องจากรถเล็กไม่สามารถใช้เข้าออกได้แล้ว ซึ่งในอำเภอชัยบาดาลได้รับความเดือดร้อนแล้วจำนวน16ตำบล 76หมู่บ้าน4564 ครัวเรือน  

ขณะที่จากภาพมุมสูงในพื้นที่ของอำเภอบ้านหมี่ระดับน้ำที่เข้าท่วมในขณะนี้หนักมาก และมีระดับน้ำที่ท่วมหนักในรอบรอบกว่า 10 ปีแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ ตำบลบ้านกล้วย ตำบลบ้านทราย ตำบลหนองทรายขาว ตำบลพุคา และตำบลหนองเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดอยู่กับคลองชัยนาท ป่าสัก มวลน้ำจะมากองอยู่ที่นี้ทั้งหมดทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูง1-2เมตรแล้ว ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก 

ล่าสุด เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างอาริโยอำเภอบ้านหมี่ได้นำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยสูงอายุติดเตียง 2 ราย ที่หมู่ที่ 3 ตำบลหนองเมืองออกมาไว้ที่ปลอดภัยหลังน้ำเข้าท่วมบ้านในระดับที่สูง จนไม่สามารถพักอาศัยได้ ส่วนอีกรายเป็นผู้ป่วยติดเตียงในหมู่ที่1ตำบลบ้านทราย 

ขณะที่นายศุภภิมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี แจ้งว่า กรมชลประทาน ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำที่จะเกิดจากปริมาณฝนตกตามคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.)  จะมีปริมาณน้ำท่าไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในระหว่างวันที่ 27 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 รวมจำนวน 515 ลูกบาศก์เมตร  หากยังคงระบายน้ำในอัตรา 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะมีปริมาณน้ำเต็มอ่างในวันที่ 30 กันยายน 2564   เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำที่จะไหลลงเขื่อนได้โดยไม่ให้น้ำเต็มอ่าง กรมชลประทานจะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากอัตรา 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเป็น 34.56 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  โดยจะทยอยระบายเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ  ซึ่งเมื่อน้ำจำนวนนี้ไหลลงไปรวมกับปริมาณน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสักแล้ว  จะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกในอัตราไม่เกิน 700 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  

ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว จะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหกในชุมชนนอกคันกั้นน้ำ บริเวณวัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 2 2.5 เมตร   โดยระดับน้ำที่สูงขึ้นดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ด้านท้ายน้ำวัดสะตือไปจนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

จังหวัดลพบุรี จึงขอแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัทห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด