“ศธ.”แก้ปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบให้มีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30%

“ศธ.”แก้ปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบให้มีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30%

ศธ.เปิดแผนแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ทำงานร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ให้มีเงินมีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% ตั้งเป้าอบรมวินัยทางการเงินปีละ1 แสนคน เริ่มอบรมรุ่นแรกวันที่ 1-15 ต.ค.นี้

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดทำแผนแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ซึ่งในระยะแรกจะดำเนินการ 3 แผนงาน ดังนี้

แผนงานที่ 1.โครงการแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบเป็นฐาน เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบ จำนวน 12 แห่ง 4 ภาค ๆ ละ 3 แห่ง ทำงานร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่ง และส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่จังหวัด ภายในเดือนตุลาคมนี้ และขยายผลการดำเนินไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศที่มีความพร้อม ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564เป็นต้นไป

 

  • แนวทางร่วมสหกรณ์ฯ ลด "หนี้ครู"

สำหรับรูปแบบการดำเนินงานในโครงการดังกล่าว ได้มีการถอดบทเรียนจากสหกรณ์ตัวอย่าง 2 แห่ง คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกำแพงเพชร จำกัด ซึ่งพบแนวทางการแก้ไขปัญหาในประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสหกรณ์ออมทรัพย์ให้ต่ำลงไม่เกิน 3%

2.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สหกรณ์และสถาบันการเงินให้สอดคล้องกับสินเชื่อที่มีอัตราความเสี่ยงต่ำ 4.5-5%  

3. จัดสรรผลกำไรมาเพิ่มเงินเฉลี่ยคืนเงินกู้ให้มากขึ้น ไม่น้อยกว่า 30% ของผลกำไร

4. การบริหารความเสี่ยง การลดค่าธรรมเนียมและการค้ำประกันที่ไม่จำเป็น

5. ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยกเลิกการฟ้องคดี รวมหนี้จากทุกสถาบันการเงินมาไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ในอัตรา 2.5 % การปรับโครงสร้างหนี้ครูก่อนเกษียณ อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และลดดอกเบี้ยเงินกู้แก่ครูที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป ตั้งแต่ 0.25-0.50.% ปรับลดการส่งค่าหุ้นรายเดือน

6. จัดทำฐานข้อมูลสมาชิกและการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับสถาบันการเงินและต้นสังกัด

7. ร่วมกันส่วนราชการต้นสังกัดหัก ณ ที่จ่าย ควบคุมยอดหนี้ไม่ให้เกินความสามารถในการชำระหนี้ของสมาชิกสหกรณ์  จะต้องมีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30%  

8. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการสร้างระบบพัฒนาและดูแลสมาชิก ให้ความรู้เสริมสร้างวินัยและ การวางแผนทางด้านการเงิน การสร้างอาชีพเสริม ลดรายจ่าย เพิ่มการออม และไม่ก่อหนี้เพิ่ม ”นางสาวตรีนุช กล่าว

 

  • แก้ปัญหาให้ผู้คำประกัน ลดอัตราดอกเบี้ย

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า แผนงานที่ 2.คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เจรจากับสถาบันการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาครูรายที่ถูกฟ้อง พร้อมแนวทางการแก้ปัญหาของผู้ค้ำประกัน และการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 โดยให้มีการดำเนินการแก้ปัญหาร่วมกันในระดับพื้นที่จังหวัดในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครู สถาบันการเงิน และส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการระดับจังหวัด

แผนงานที่ 3.การจัดอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มอายุราชการ 1- 5 ปี ให้มีความรู้ทางด้านการวางแผนและการสร้างวินัยทางการเงินและการออม โดยมีเป้าหมายอบรม 1 แสนคนต่อปี โดยเริ่มอบรมรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 1-15  ตุลาคม 2564  ออนไลน์ผ่านศูนย์ Deep กระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งนี้ ข้อมูลภาพรวมปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา พบว่า ครูฯทั่วประเทศประมาณ 9 แสนคน หรือ  80% มีหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท โดยเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู วงเงิน 8.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 64 %รองลงมาคือ ธนาคารออมสิน วงเงิน 3.49 แสนล้านบาท คิดเป็น 25 % ของหนี้สินครูทั้งหมด