‘ทีคิวเอ็ม’รุกสินเชื่อส่วนบุคคลต่อยอดการเติบโตระยะยาว

‘ทีคิวเอ็ม’รุกสินเชื่อส่วนบุคคลต่อยอดการเติบโตระยะยาว

การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนแห่ทำประกันโควิดอย่างคึกคัก เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ อาการป่วยจากโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยราคาค่าเบี้ยเริ่มต้นเพียงหลักร้อย แต่ให้การคุ้มครองตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน

โดยเฉพาะประกันแบบ “เจอ จ่าย จบ” ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ตั้งแต่มีการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปี 2563 ซึ่งเมื่อตรวจเจอว่าติดเชื้อ จะได้รับเงินก้อนทันที ทำให้บรรดาบริษัทประกันโกยค่าเบี้ยกันกระเป๋าตุง หนุนผลประกอบการพุ่งนิวไฮถ้วนหน้า

เมื่อพูดถึงประกันโควิดเชื่อว่าหลายๆ คนต้องนึกถึง บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ประกันรายใหญ่ของประเทศ ขายประกันของบริษัทพันธมิตรชั้นนำมากมาย โดยมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า

ทั้งประกันรถยนต์ ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ฯลฯ โดย TQM น่าจะเป็นเจ้าแรกๆ ในประเทศที่ขายประกันโควิด-19 ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2563 ที่โควิดระบาดหนัก จนต้องล็อกดาวน์ปิดประเทศ ประชาชนแห่ซื้อประกันโควิดจนระบบของ TQM ล่มมาแล้ว 

โดยบริษัทมีการเปิดช่องทางการขายใหม่ๆ เน้นการขายผ่านออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์, ไลน์, เฟซบุ๊ค รวมทั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาโกยยอดเบี้ยประกันโควิดปีแรกไปทั้งหมดกว่า 500 ล้านบาท

หนุนให้ผลประกอบการพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์มีรายได้รวม 3,136.08 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 702 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นทำออลไทม์ไฮที่ 149 บาท เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563

ส่วนปีนี้ยอดขายประกันโควิดยังไปได้ดี หลังเกิดการระบาดรอบใหม่เมื่อช่วงเดือนเม.ย. จากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากครั้งก่อนๆ ทำให้ประชาชนแห่ซื้อประกันโควิดอีกครั้ง ทั้งผู้ซื้อรายใหม่และลูกค้าเดิมที่ต่อประกันหลังครบอายุ 1 ปี

โดยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ยอดขายประกันโควิดพุ่งแตะ 700 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนทั้งปี ส่วนผลประกอบการยังไปได้สวย มีรายได้ 1,703.90 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 423.31 ล้านบาท

แม้ประกันโควิดจะเป็นสินค้าดาวเด่น แต่บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่องเพื่อขยายธุรกิจให้ครบวงจร โดยเดือนเม.ย. ได้ลงนามเอ็มโอยูเพื่อเข้าลงทุนในบริษัท ทรู ไลฟ์ โบรกเกอร์ จำกัด นายหน้าประกันชีวิตประเภทกลุ่มอันดับ 1 ของไทย ซึ่งมีฐานลูกค้ารายย่อยมากกว่า 500,000 ราย

และบริษัท ทรู เอ็กซ์ตร้า โบรกเกอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจด้านนายหน้าประกันวินาศภัย ซึ่งมีผู้เอาประกันรวมกว่า 30,000 ราย โดยจะเข้าถือหุ้นทั้งสองบริษัทในสัดส่วน 51% ผ่านการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 266 ล้านบาท ซึ่งปิดดีลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

โดยปีนี้บริษัท ทรู ไลฟ์ โบรกเกอร์ จำกัด ตั้งเป้าเบี้ยขายประกันชีวิตกว่า 1,000 ล้านบาท และคาดมีรายได้รวมมากกว่า 120 ล้าน ส่วนบริษัท ทรู เอ็กซ์ตร้า โบรกเกอร์ จำกัด ตั้งเป้าเบี้ยขายประกันภัยกว่า 100 ล้านบาท และรายได้รวมกว่า 10 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังเข้าลงทุนในบริษัท ชัวร์ครับ.คอม จำกัด ซึ่งทำแอพพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเข้าถือหุ้นผ่านบริษัทย่อยในสัดส่วน 60% คิดเป็นมูลค่าลงทุนไม่เกิน 6 ล้านบาท

รวมทั้งได้มีการเปิดตัวประกันภัยบ้าน TQM Home Insurance ซึ่งมองว่ามีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีการถือครองกรมธรรม์ประกันภัยบ้านเพียง 22% เท่านั้น โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 500 ล้านบาท และปี 2565 ที่ 1.4 พันล้านบาท และจะแตะ 5 พันล้านบาทภายในปี 2569

อีกหนึ่งก้าวสำคัญคือการรุกสู่ธุรกิจสินเชื่ออย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้บริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ. ขณะนี้ได้รับใบอนุญาตสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบคาดว่าจะเริ่มให้บริการด้านสินเชื่อส่วนบุคคลภายในไตรมาส 4 นี้

โดยคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อเบี้ยประกันภัยได้กว่า 300 ล้านบาท และสร้างรายได้ให้บริษัทกว่า 20 ล้านบาท และปี 2565 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่ออีกกว่า 1,500 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะเข้ามาเติมเต็มและช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตในระยะยาว