'SO' ธุรกิจจ้างเหมา ร่วมบริการ 'รถตู้' ช่วยผู้ป่วยโควิด

ช่วงสัปดาห์นี้ถึงจะมียอดผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ถึง 20,000 รายต่อวัน แต่ถ้าลงพื้นที่ไปในชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะในกทม. จะพบว่ามีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ต้องรอการรักษาในโรงพยาบาล หรือกำลังเข้าร่วม Home Isolation และ Community lsolation ฉะนั้น แม้ยอดผู้ป่วยจะขึ้นหรือลง ทุกคนก็ต้องปฎิบัติตัวตามมาตรการใหม่ ป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล

ตลอดปีครึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากเห็นการทำงานของภาครัฐ และมาตรการต่างๆที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรค จะได้เห็นถึงความช่วยเหลือ ร่วมมือร่วมใจของคนไทยในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ที่ได้เข้ามามีบทบาทช่วยดูแลพี่น้องประชาชน และ เสริมการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์

• เปลี่ยนรถตู้จ้างเหมา รับส่งผู้ป่วยโควิด

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจจ้างเหมาบริการ (Outsourcing Services)  ภาคเอกชนที่ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการส่งพนักงานเข้าไปช่วยคัดกรอง บริจาคสิ่งของ อาหารในชุมชนคลองเตย และล่าสุด ได้ผนึกกำลังกลุ่มจิตอาสา สนับสนุนรถตู้แต่งพิเศษ พร้อมพนักงานขับรถ เพื่อให้บริการรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีเขียว จากบ้านพักอาศัย ไปยังศูนย์พักคอย หรือโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา

เอษรา วิมลเฉลา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO เล่าว่า ตั้งแต่เกิดโควิด-19 บริษัท SO ได้รับผล กระทบจากโควิด-19 เนื่องจากเป็นบริษัทจ้างเหมาบริการ รถตู้ และรถสาธารณะต่างๆ แต่เมื่อคนไม่เดินทาง ไม่ท่องเที่ยวก็ต้องมีจำนวนผู้ใช้บริการน้อยลง รายได้ก็น้อยลง จึงได้ปรับรถตู้แบบติดลิฟท์ไฮโดรลิค ที่บริการผู้สูงอายุ และผู้ป่วยอยู่แล้ว แต่ลูกค้าส่วนหนึ่งไม่ได้ใช้บริการ เนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงของโควิด-19 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คลายล็อกดาวน์ 'ความหวังภาคบริการ' รู้ว่าเสี่ยง แต่ขอสู้
• ขสมก.ปรับ 'แผนเดินรถ' รับคลายล็อกดาวน์
• 'คลายล็อกดาวน์' เช็คอัพเดท กิจการ/กิจกรรม ประเภทไหน? ทำได้-ทำไม่ได้ ใน 29 จังหวัด สีแดงเข้ม

 จึงได้จัดแบ่งรถตู้ทั้งหมด 4 คัน เป็นรถตู้แบบธรรมดาจำนวน 2 คัน และแบบติดลิฟท์ไฮโดรลิคจำนวน 2 คัน ให้บริการรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีเขียว โดยร่วมมือกับกลุ่มจิตอาสา 3 กลุ่ม คือ กลุ่มจิตอาสาเส้นด้าย และ ไดอาน่า จงจินตนาการ ส่งต่อศูนย์พักคอยต่างๆ และวัดป่าเจริญธรรม อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ตลอดจนให้บริการกับลูกค้าของ SO

• อบรมพื้นฐานก่อนเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

ตลอดระยะเวลา 2 เดือนกว่า รถตู้ทั้ง 4 คันพร้อมพนักงานขับรถ ได้ให้บริการรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 ไปแล้วจำนวนมาก โดยพนักงานขับรถที่บริษัท SO จัดส่งไปให้บริการพร้อมรถตู้ จะผ่านการฝึกอบรมขั้นพื้นฐานในการปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตลอดจนมีความเข้าใจและมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน ทั้งสวมใส่ชุดป้องกัน PPE และอุปกรณ์ป้องกัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน และความปลอดภัยแก่ผู้ป่วย

เอษรา เล่าต่อว่ารถตู้ที่ได้มีการจัดทำขึ้นพิเศษ โดยการติดตั้งลิฟท์ยกแบบไฮโดรลิคนี้ เหมาะสำหรับการขนย้ายผู้ป่วยที่โควิด-19 หรือผู้ป่วยที่นั่งรถเข็นวีลแชร์(Wheel Chair)สามารถยกขึ้นและลงได้สะดวกรองรับน้ำหนักได้ถึง 350 กิโลกรัม โดย ให้บริการเพียง 2 คัน เนื่องจาก รถตู้จัดทำพิเศษดังกล่าวมีจำนวนจำกัด แต่ก็ได้เพิ่มรถตู้ธรรมดา หากสถานการณ์ มีความรุนแรงมากขึ้นก็อาจจะมีปรับแผนให้บริการเพิ่มมากขึ้น หรืออาจจะเพิ่มความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป

“ขณะนี้คงไม่ใช่เรื่องภาครัฐ หรือภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยเหลือกัน ซึ่งใครมีศักยภาพด้านไหน ความพร้อมอะไรก็ช่วยเหลือด้านนั้น อย่าง SO เรามีรถตู้ มีพนักงานขับรถไว้บริการอยู่แล้ว ก็นำรถตู้มาบริการผู้ป่วยโควิด-19 การจะเข้าไปช่วยเหลือในแต่ละพื้นที่จะสอบถามจากคนในพื้นที่ว่าต้องการความช่วยเหลือในรูปแบบไหน เพราะแต่ละพื้นที่ต้องการการดูแล ช่วยเหลือแตกต่างกัน ” เอษรา กล่าว

• ปรับการทำงาน รับสถานการณ์โควิด

ทุกองค์กร ทุกบริษัท และทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งหมด ยิ่งงานด้านบริการ ทุกอย่างหยุดนิ่ง องค์กร หรือบุคลากรที่อยู่ในงานบริการย่อมได้รับความเดือนร้อนมากที่สุด เอษรา เล่าต่อไปว่า บริษัท SO ได้รับผลกระทบไม่แตกต่างจากบริษัทอื่น ซึ่งที่ผ่านมาพยายามปรับแผน ปรับรูปแบบการทำงาน ปรับทีมให้สามารถดูแลได้ทั้งพนักงาน ลูกค้า และเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ทำความเข้าใจกับพนักงานถึงการปรับเปลี่ยนต่างๆ และมีลูกค้ามีทั้งกลุ่มราชการ และเอกชน ยังใช้บริการอยู่ ทำให้ตอนนี้ยังสามารถดำเนินกิจการอยู่ได้

“มาตรการคลายล็อกดาวน์ของภาครัฐที่เริ่มไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2564 ถึงจะมีการเปิดร้านอาหาร เปิดห้างสรรพสินค้า แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดอีกนานหรือจะสั่งปิดเมื่อใด เพราะที่ผ่านมาการออกมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ จะเป็นไปตามสถานการณ์ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 พอยอดผู้ป่วยสูงขึ้น ภาครัฐก็สั่งปิดกิจการ/กิจกรรม พอตัวเลขลดลงก็สั่งเปิด ทำให้ตอนนี้เราจึงยังไม่ขยับตัวอะไรมาก ยังให้บริการลูกค้าเหมือนเดิมโดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ สื่อสารติดต่อผ่านออนไลน์” เอษรา กล่าว

• แนะรัฐเปิดแผนป้องกันโรค มาตรการ ฟื้นเศรษฐกิจชัดเจน

การเปิดร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ร้านตัดผม ร้านนวด งานบริการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เอษรา มองว่า เป็นมาตรการที่ดี แต่ในทางปฎิบัติยังไม่มีความชัดเจน เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับนักธุรกิจภาคบริการ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า พบว่าส่วนใหญ่ยังกังวล และไม่แน่ชัดว่าต้องปฎิบัติเช่นใด เพราะหากมีการซื้อวัตถุดิบ หรือจ้างพนักงานมาทำงาน จะมีผู้มาใช้บริการหรือไม่ ขณะเดียวกันก็กังวลว่าหากยอดตัวเลขผู้ป่วยสูงขึ้น ภาครัฐก็จะล็อกดาวน์อีก 

"อยากขอความชัดเจนจากภาครัฐว่าจะเปิด จะปิด ขอให้มีระยะเวลาชัดเจน ภาครัฐควรเปิดแผนการป้องกันโรค และการฟื้นฟูเศรษฐกิจรวมถึงมาตรการเยียวยา ดูแลต้องชัดเจน เพื่อให้ภาคเอกชนได้วางแผนเตรียมพร้อมรับมือ เพราะเข้าใจว่ามาตรการต่างๆ ออกมาอยากลดการแพร่ระบาด แต่ถ้าสั่งเปิดปิด โดยภาคเอกชนไม่รู้อะไร พวกเขาจะเตรียมพร้อมรับมือไม่ทัน ธุรกิจอยู่ไม่ได้ ประเทศก็ไม่สามารถฟื้นฟูทางเศรษฐกิจได้” เอษรา กล่าวทิ้งท้าย