กสร.ผนึกปส. มุ่งยกระดับความปลอดภัยทางรังสีใน 'สถานประกอบกิจการ'

กสร.ผนึกปส. มุ่งยกระดับความปลอดภัยทางรังสีใน 'สถานประกอบกิจการ'

กสร.MOU ปส. มุ่งยกระดับความปลอดภัยทางรังสีใน 'สถานประกอบกิจการ'เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อลูกจ้าง ประชาชน และสิ่งแวดล้อม

นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยความปลอดภัยทางรังสีในสถานประกอบกิจการ ร่วมกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ว่า

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำหนดเป้าหมายในการขับเคลื่อนนโยบาย Safety Thailand โดยดำเนินการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับการกำกับดูแลและการดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยของแรงงานและของประเทศไทยให้ยั่งยืน

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยความปลอดภัยทางรังสีในสถานประกอบกิจการ ร่วมกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ในครั้งนี้ เพื่อผสานความร่วมมือระหว่างกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ทั้งด้านวิชาการ ด้านกฎหมาย ด้านการพัฒนาบุคลากร ด้านระบบฐานข้อมูล

  • บริหารจัดการด้านแรงงานในสถานประกอบการ

เพื่อสนับสนุน แลกเปลี่ยนและบูรณาการข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านแรงงานใน สถานประกอบกิจการ ที่ครอบครองและใช้งานวัสดุ กัมมันตรังสี และเครื่องกำเนิดรังสี รวมทั้งข้อมูลรายงานการตรวจสอบความปลอดภัยของสถานประกอบกิจการ

อีกทั้งการติดตามข้อมูลแนวโน้มการจ้างแรงงาน เพื่อเฝ้าระวังการเลิกจ้างแรงงานและการละทิ้งวัสดุกัมมันตรังสีและเครื่องกำเนิดรังสีในการครอบครอง และทำให้เกิดการแปลงสภาพสารกัมมันตรังสีและเครื่องกำเนิดรังสี ซึ่งจะเป็นอันตรายกับประชาชนและสิ่งแวดล้อม และด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยและจัดการเหตุฉุกเฉินทางรังสี

  • ขับเคลื่อน นโยบาย 'Safety Thailand' 

อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณาการของสองหน่วยงานภาครัฐในการขับเคลื่อนนโยบาย Safety Thailand เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและประสานงานระหว่างกัน ในการพัฒนาความปลอดภัยทางรังสีในสถานประกอบกิจการของประเทศไทยในทุก ๆ มิติ

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โทร 02 448 9128-39 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1546 หรือ 1506 กด 3