‘ศรีนานาพร’ ครึ่งปีแรก กำไร 254.7 ล้านบาท ชูธงเพิ่มการผลิต-จัดจำหน่าย ฝ่าโควิด-19

‘ศรีนานาพร’ ครึ่งปีแรก กำไร 254.7 ล้านบาท ชูธงเพิ่มการผลิต-จัดจำหน่าย ฝ่าโควิด-19

แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 แต่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จ ในการผลักดันรายได้ทั้งจากการขายในประเทศและต่างประเทศ

บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นที่รู้จักกันดีจากธุรกิจค้าปลีกขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม เช่น ปลาหมึกแผ่นแบรนด์เบนโตะ, โลตัสขาไก่, ขนมเวเฟอร์ช็อกกี้ และเครื่องดื่มอย่างแบรนด์เจเล่ เช่น เจเล่ไลท์, เจเล่บิวตี้

แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 แต่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จ ในการผลักดันรายได้ทั้งจากการขายในประเทศและต่างประเทศ และมีอัตราการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นจากฐานธุรกิจที่พัฒนาขึ้นมาตลอดช่วง 5 ปีหลัง ส่งให้บริษัทมีความเข้มแข็ง

ชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบัญชีและการเงิน (CFO) บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง กล่าวว่า ผลการเงินรวมของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2564 บริษัททำรายได้รวม 2,312.1 ล้านบาท มีรายได้จากการขาย 2,170.4 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิตลอดครึ่งปีที่ 254.7 ล้านบาท และในด้านการเงินได้ปรับเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีโดยไม่ได้รวมรายได้หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนของบริษัทฯ ในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศอีกต่อไป ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลง

ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 เป็นผลการดำเนินงานที่สะท้อนให้เห็นศักยภาพในธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าที่มีฐานธุรกิจในประเทศที่เข้มแข็งพร้อมที่จะเติบโตต่อไปในต่างประเทศในอนาคต ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว มีคุณภาพและแบรนด์เป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย

“ในช่วงโควิด-19 เราก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกับธุรกิจอื่นๆ แต่เราได้เตรียมพื้นฐานรองรับไว้คลอดช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา ทั้งการออกกลุ่มสินค้าแบบใหม่ พัฒนาช่องทางในการกระจายสินค้า การเปิดตลาดที่ประเทศอื่น โฟกัสทั้ง Modern trade และTraditional Trade ซึ่งการเตรียมตัวมานานทำให้เราไปได้ มีเครื่องมือ เพื่อที่จะฝ่าฟัน ให้มันเกิดขึ้นไปได้”

ชยุตม์ กล่าวว่า แม้จะยังไม่สามารถคาดการณ์ตัวเลขผลกำไรในไตรมาส 3 ที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ดำเนินอยู่มีปัจจัยให้พิจารณาแตกต่างกันไปแต่ละช่วงสถานการณ์ แต่ฐานรากของศรีนาพรฯ ค่อนข้างเข้มแข็ง และคิดว่าช่วงปลายปีก็น่าจะกลับมาดีขึ้นได้และจะดีขึ้นกว่าปี 2019 -2020 พร้อมกันนี้บริษัทยังมองตลาดต่างประเทศ เช่น ตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV โดยจะขยายฐานการผลิตจากในไทย ไปกัมพูชาและเวียดนาม ซึ่ง 2 ประเทศนี้นอกจากมีตลาดขนาดใหญ่แล้ว ส่วนสำคัญมีวัตถุดิบที่มีคุณภาพและตรงกับที่ศรีนานาพรฯ ต้องการ ซึ่งคาดว่าโรงงานผลิตจะทยอยเปิดในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ บริษัทยังได้หาพาร์ทเนอร์และได้ร่วมทุนกับแบรนด์ใหญ่ เช่น การร่วมลงทุนกับ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ในบริษัท สิริ โปร จำกัด ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการกระจายสินค้าเข้าถึงร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งดั้งเดิมได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น มุ่งขยายช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องอีกด้วย