‘ไทยพาณิชย์ โพรเทค’ ปักธงรุก ’ดิจิทัลแฟลตฟอร์มโบรกเกอร์’ ส.ค.นี้

‘ไทยพาณิชย์ โพรเทค’ ปักธงรุก ’ดิจิทัลแฟลตฟอร์มโบรกเกอร์’ ส.ค.นี้

"ไทยพาณิชย์ โพรเทค" เตรียมเปิดดิจิทัลแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ ส.ค.นี้ รุกตลาดประกันวินาศภัย เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรไม่ต่ำกว่า 3,000 รายในสิ้นปีนี้ หนุนเบี้ยโตเด่นปีหน้า พร้อมปรับกลยุทธ์ฝ่าโควิด ดันเบี้ยรับปีนี้แตะ500 ล้าน จากครึ่งปีแรกทำได้ 200 ล้าน

นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2564  บริษัทเตรียมเปิดตัว “ดิจิทัลแพลตฟอร์มโบรกเกอร์” ที่ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี  เข้ามาเสริมธุรกิจประกันภัยแบบครบวงจร ในเดือน ส.ค. นี้ หลังจากได้ใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เรียบร้อยแล้ว

สำหรับ “ดิจิทัลแพลตฟอร์มโบรกเกอร์”  บริษัทจะนำมาใช้ขยายเพิ่มพอร์ตประกันวินาศภัย และประกันกลุ่มสวัสดิการพนักงานเพื่อตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น  ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทประกันวินาศภัยพันธมิตรชั้นนำ เช่น เทเวศประกันภัย ทิพยประกันภัย ประกันภัยไทยวิวัฒน์ โตเกียวมารีนประกันภัย มุ่งขยายงานเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรไม่ต่ำกว่า 3,000 แห่ง ในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีราว 1,000 แห่ง

บริษัทตั้งเป้าหมายมีเบี้ยประกันจากธุรกิจประกันวินาศภัยชัดเจนมากขึ้นในปี 2565 เป็นต้นไป หวังมีสัดส่วน 20-30% ในอนาคต เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันสัดส่วนเพียง 4-5% โดยส่วนใหญ่กว่า 95% เป็นเบี้ยประกันมาจากธุรกิจประกันชีวิต

     

นางสาวปรมาศิริ กล่าวว่า ภายใต้การแพร่ระบาดโควิด -19 ระลอก3 รุนแรงและลากยาวขึ้น ในปีนี้บริษัทได้วางเป้าหมายมีเบี้ยประกันทั้งสิ้น 500 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกของปี 2564 อยู่ที่ 200 ล้านบาท ถือว่า เป็นการเริ่มต้นขยายธุรกิจที่ดีหลังเริ่มธุรกิจนี้เมื่อกลางปี 2563  โดยสิ้นปีนี้มีเบี้ยประกันจะช่องทางเทเลเซลล์ สัดส่วนเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันที่ 20% ที่เหลือมาจากช่องทางทีมขาย            

พร้อมกับปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน  มุ่งเดินหน้ารับสมัครทีมขายผ่านช่องทางออนไลน์ และขยายทีมขายในช่องทางเทเลเซลล์มากขึ้น คาดว่า ในสิ้นปีนี้จะมีทีมขาย 2,000 คน และทีมเทเลเซลล์ 500คน จากปัจจุบันมีทีมขายราว 3,000 คน เป็นทีมขายทำงาน (Active) ถึง 80% โดยมียอดลูกค้าต่อตัวแทนขายเฉลี่ย 5 คนต่อราย หรือในสถานการณ์ปกติมีลูกค้าเฉลี่ยสูง 7-8 คนต่อราย ขณะที่ยังมีตัวแทนบางส่วนอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมอบรมเพื่อสอบใบอนุญาตตัวแทนขายประกัน 

รวมถึงขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างประกันภัยโควิด-19 ประกันรถยนต์ ประกันภัยอุบัติส่วนบุคคล รวมถึงประกันแบบแพจเกจทั้งความคุ้มครองและออมเงิน มีการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในช่วงนี้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

“ประเมินว่าตลาดประกันชีวิตและประกันวินาศภัยปีนี้ เบี้ยประกันทั้งระบบน่าจะยังโตได้เท่าปีก่อนและไม่เห็นการติดลบ เพราะในช่วงโควิด-19 ระบาด คนไทยเห็นความสำคัญและสนใจซื้อประกันความคุ้มครองมากขึ้น แต่ในแง่ของกำลังซื้อลูกค้าอาจมีผลกระทบ มีเบี้ยเฉลี่ยต่อรายลดลงบ้างเมื่อเทียบกับปีก่อน เราได้ปรับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องความต้องการและกำลังซื้อ ทั้งยังใช้กลยุทธ์ดิจิทัลเข้ามาเสริมในช่วงที่ยังออกไปพบลูกค้าไม่ได้"