สหรัฐให้คำมั่นช่วยภาคอุตฯแก้ปัญหาขาดแคลนชิพ

สหรัฐให้คำมั่นช่วยภาคอุตฯแก้ปัญหาขาดแคลนชิพ

สหรัฐให้คำมั่นช่วยภาคอุตฯแก้ปัญหาขาดแคลนชิพ เล็งอัดฉีดเงิน-ส่งเสริมความโปร่งใส

นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้จัดการประชุมร่วมกับบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในแวดวงอุตสาหกรรมจำนวนกว่า 30 ราย เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญาหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในการผลิตชิพ โดยนางไรมอนโดกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะช่วยผลักดันให้เกิดความโปร่งใสในตลาดชิพ

สำหรับผู้บริหารภาคเอกชนที่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ รวมถึงผู้บริหารของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม), ฟอร์ด มอเตอร์, สเตลแลนติส, บรรดาซัพพลายเออร์ชิพ และบริษัทอื่นๆที่เป็นผู้ใช้ชิพ

นางไรมอนโดกล่าวว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สนับสนุนการใช้จ่ายในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการผลิตและการวิจัยด้านเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐ อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายเงินเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวนั้นอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง หากได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส

เมื่อผู้บริหารในที่ประชุมถามว่า คณะบริหารของปธน.ไบเดนมีมาตรการใดๆที่จะช่วยแก้ปัญหาการผลิตรถยนต์ในระยะเวลาอันใกล้นี้หรือไม่ นางไรมอนโดกล่าวว่า รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือโดยจะพิจารณาจากตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์ และจะแก้ไขปัญหาการขาดความโปร่งใสในตลาดผลิตชิพ รวมทั้งความจำเป็นในภาคส่วนอื่นๆด้วย

"เรากำลังคิดถึงแนวทางต่างๆที่อาจจะช่วยพวกท่านได้ ด้วยการแบ่งปันข้อมูลมากขึ้นระหว่างกลุ่มผู้ผลิตและกลุ่มผู้ใช้ มีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลจะเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ หรืออาจจะสนับสนุนให้อุตสาหกรรมดำเนินการในเรื่องนี้ โดยทางรัฐบาลอาจจะให้ความช่วยเหลือในการด้านการเพิ่มความโปร่งใสและการแบ่งปันข้อมูล" นางไรมอนโดกล่าว

ก่อนหน้านี้ AlixPartners ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาระดับโลกคาดการณ์ว่า ปัญหาการขาดแคลนชิพทั่วโลกจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์ได้รับความเสียหายจากการขาดทุนเป็นมูลค่าสูงถึง 1.10 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการเบื้องต้นไว้ที่ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์จำนวนมากถึง 3.9 ล้านคัน

เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทฟอร์ด มอเตอร์เตือนว่า ปัญหาขาดแคลนชิพอาจทำให้ทางบริษัทต้องลดการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 2 ลงครึ่งหนึ่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 2.5 พันล้านดอลลาร์ และทำให้การผลิตรถยนต์ลดลง 1.1 ล้านคันในปีนี้

ขณะที่จีเอ็ม ประกาศขยายเวลาระงับการผลิตที่โรงงานหลายแห่งในอเมริกาเหนือ เนื่องจากปัญหาขาดแคลนชิพ