เปิดพอร์ตเศรษฐีหุ้นไทย "นิติ โอสถานุเคราะห์" ลงทุนอะไรบ้าง?

เปิดพอร์ตเศรษฐีหุ้นไทย "นิติ โอสถานุเคราะห์" ลงทุนอะไรบ้าง?

เปิดพอร์ต "นิติ โอสถานุเคราะห์" เศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 3 ลงทุนอะไรบ้างท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 "ลด" หรือ "เพิ่ม" สัดส่วนการถือหุ้นอะไรในปี 2564?

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ณ วันที่ 30 เม.ย.64 พบว่า "นิติ โอสถานุเคราะห์" เศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 3 มีชื่ออยู่ในโครงสร้างผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรก หรือมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียน ดังนี้

1. บมจ.โอสถสภา (OSP) ถือหุ้นเป็นลำดับที่ 2 จำนวน 715.03 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.80% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุนรวม 2.55 หมื่นล้านบาท

2. บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ถือหุ้นเป็นลำดับที่ 2 จำนวน 495.8 ล้านหุ้น คิดเป็น 9.55% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุนรวม 1.48 หมื่นล้านบาท

3. บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ถือหุ้นเป็นลำดับที่ 4 จำนวน 665.7 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.06% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุนรวม 9.3 พันล้านบาท

4. บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ถือหุ้นเป็นลำดับที่ 3 จำนวน ล้านหุ้น 41.3 คิดเป็น 3.06% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุนรวม 1.3 พันล้านบาท

5. บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ถือหุ้นเป็นลำดับที่ 10 จำนวน 375.2 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุนรวม 1.2 พันล้านบาท

6. บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) ถือหุ้นเป็นลำดับที่ 10 จำนวน 2.2 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.09% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุนรวม 600.5 ล้านบาท

7. บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ถือหุ้นเป็นลำดับที่ 7 จำนวน 77 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.72% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุนรวม 4.02 พันล้านบาท

161988602287

ทั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมกว่า 5.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% จากปี 2563 ที่ 4.81 หมื่นล้านบาท โดยพบว่า "นิติ" เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น OSP มาอยู่ที่ 715,030,000 หุ้น หรือ 23.80% จากเดิมถือหุ้นจำนวน 500,030,000 หุ้น หรือ 16.65%

ภายหลังกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ "Orizon" (ประกอบด้วย Orizon Limited และ นายเพชร โอสถานุเคราะห์) ประกาศขายหุ้นออกมาจำนวน 381,359,000 หุ้น หรือ 25.39% ให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น MINT มาอยู่ที่ 495,800,851 หุ้น หรือ 9.55% จากเดิมถือหุ้นจำนวน 492,650,851 หุ้น หรือ 9.51% โดยเป็นการเข้าซื้อต่อเนื่องระหว่างปี 2563 ในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 50% จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ต่อธุรกิจโรงแรม จากต้นปี 2563 (ณ วันที่ 16 มี.ค.2563) ที่ถือหุ้นจำนวน 409,634,851 หรือ 8.87%

อย่างไรก็ดี ไม่ปรากฎชื่อของ "นิติ" เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บมจ.อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) (IRC), บมจ.โอเชียนกลาส (OGC), บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ (TFMAMA)  และ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) จากเดิมมีชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปี 2563