“อโกด้า” แนะธุรกิจคิดใหม่-ทำใหม่ ผ่าทางรอดท่องเที่ยวไทย

“อโกด้า” แนะธุรกิจคิดใหม่-ทำใหม่ ผ่าทางรอดท่องเที่ยวไทย

“อโกด้า” แนะธุรกิจคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อค้นหาทางรอดแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หลังวิกฤติโควิด-19 กระทบหนักนานกว่า 1 ปี ชี้ต้องขยับตัวให้เร็ว สร้างนวัตกรรมให้ไว พร้อมยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน

นายเดเมี่ยน เฟิร์ช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ อโกด้า (Agoda) กล่าวว่า นับเป็นเวลากว่า 1 ปีตั้งแต่วิกฤติโควิด-19 เริ่มขึ้นและทำให้ผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลกระทบในวงกว้างและมอบบทเรียนล้ำค่าแก่ภาคธุรกิจ นั่นคือการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดในยุคนิวนอร์มอลที่มีการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา โดยต้องขยับตัวให้เร็ว และสร้างนวัตกรรมให้ไว

“การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจต้องเร่งหาทางออกสำหรับปัญหาที่กำลังเผชิญ และยังต้องหาทางป้องกันและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต เช่น การผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยปกติการพัฒนาวัคซีนต้องใช้เวลาหลายปี แต่ด้วยความพร้อมในการรับมือและการตอบรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รวดเร็วของหลายบริษัท เราจึงมีวัคซีนโควิด-19 พร้อมใช้ในเวลาไม่ถึง 1 ปี”

นอกจากนี้การลงทุนกับเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัว และการปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเป็นสิ่งสำคัญ และอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือพนักงานผู้ขับเคลื่อนเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมเกี่ยวกับนวัตกรรมและความยืดหยุ่นในบริษัท ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะพนักงานที่มีความมุ่งมั่นจะได้รับแรงกระตุ้นที่จะผลักดันบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้า และบริษัทที่จะบรรลุเป้าหมายได้ดีที่สุดคือบริษัทที่สามารถสร้างนวัตกรรมที่ครอบคลุมหลายๆ ด้านในเวลาเดียวกัน และบุกตลาดได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ โปรแกรม หรือบริการ

และเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนทิศทางการดำเนินงาน และเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทีมงานของอโกด้าจึงทำงานอย่างหนักเพื่อร่นเวลาการนำโมเดลธุรกิจแบบไวท์ เลเบล ของอโกด้าไปใช้กับพาร์ทเนอร์ จากที่ใช้เวลาหลายเดือนให้เหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์ และพัฒนาแคมเปญครบวงจรอย่าง GoLocal ที่มอบดีลพิเศษสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศให้แก่ลูกค้า เพื่อช่วยให้พาร์ทเนอร์เจาะตลาดการท่องเที่ยวในประเทศและเพิ่มยอดจองห้องพักได้

นายเดเมี่ยน กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าต้องการรับมือกับวิกฤติอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องมองหาโอกาสที่อาจเกิดขึ้นจากวิกฤตินั้น ในช่วงเวลาที่ทุกๆ สิ่งหยุดชะงักและความต้องการของผู้บริโภคลดลง ธุรกิจมากมายจึงต้องกระตุ้นความเป็นผู้ประกอบการของตัวเอง และหันกลับมามองผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงช่องว่างในตลาดของตน เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า เช่น ที่พักต่าง ๆ ในประเทศไทยที่นำเสนอแพ็กเกจห้องพักหลายแบบตามเทรนด์ต่าง ๆ เช่น เวิร์ค ฟอร์ม โฮเทล (work from hotel)

ขณะเดียวกันการยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการรับมือกับความท้าทายในระยะสั้นรวมถึงระยะยาวจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสามารถในการฟื้นตัว และช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นการที่รัฐบาลทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายเพื่อรักษาสวัสดิการของประชาชน งาน ธุรกิจ และภาคเอกชนที่จัดหาเทคโนโลยี รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมที่จะช่วยตอบรับสถานการณ์ในปัจจุบัน

เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลได้ร่วมมือกับบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTAs) เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมโซลูชั่นด้านการตลาด เช่น การให้บริการแพลตฟอร์มแก่นักเดินทางที่เข้าร่วมแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว “เราเที่ยวด้วยกัน” สำหรับประเทศไทย และ “Go To Travel” สำหรับประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายในการค้นหาและจองโรงแรมกักตัวของนักเดินทางชาวฮ่องกงและไทย