THGตั้งงบลงทุน 1.13 พันล้าน ซื้อโรงพยาบาล-ร่วมทุนธุรกิจ 'เฮลธ์แคร์'

THGตั้งงบลงทุน 1.13 พันล้าน ซื้อโรงพยาบาล-ร่วมทุนธุรกิจ 'เฮลธ์แคร์'

“ธนบุรี เฮลท์แคร์” เจรจาซื้อกิจการโรงพยาบาลหลายแห่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดไปต่อไม่ไหว แย้มบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ของไทยสนใจร่วมทุนธุรกิจการแพทย์ คาดชัดเจนปีนี้ พร้อมรับสนใจปลูกกัญชง ตั้งเป้ารายได้ปี 64 เติบโต 7-10% ภายใต้งบลงทุน 1.13 พันล้านบาท

นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า  บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าควบรวมและซื้อกิจการ(M&A)โรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะสรุปได้กี่ราย ซึ่งทางบริษัทมีแผนที่จะเข้าซื้อโรงพยาบาลใหม่เข้ามาต่อเนื่องในช่วง3-4 ปีข้าง เพื่อทำให้บริษัทมีโรงพยาบาลในเครือมากขึ้น

รวมถึงบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ในประเทศไทย ในการร่วมลงทุนธุรกิจการแพทย์ (Healthcare) ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในธุรกิจกัญชง ซึ่งบริษัทฯมีความสนใจลงทุนในธุรกิจต้นน้ำ คือการปลูกกัญชง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือกับศูนย์วิจัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สระบุรี  ส่วนแผนการลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศเมียนมา ปัจจุบันจำเป็นต้องชะลอการลงทุน  เพราะ สถานการณ์การเมืองในประเทศเมียนมา

161590363763

สำหรับงบลงทุนปีนี้คาดอยู่ที่ 1,130 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนในโรงพยาบาลธนบุรี 1 มูลค่า 483 ล้านบาท โรงพยาบาลธนบุรี 2 มูลค่า 187 ล้านบาทโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง 250 ล้านบาท โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต 43 ล้านบาท (งบลงทุนปรับภูมิทัศน์) โครงการธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ 165 ล้านบาท

ส่วนโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้งฯ ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยสูง 7 ชั้น สำหรับรองรับคนวัยเกษียณ ปัจจุบันเริ่มมีผู้เข้ามาพักอาศัยแล้ว หลังจากที่เสนอขายไป 150-160 ยูนิต จากจำนวนทั้งหมด 494 ยูนิต ส่วนโครงการธนบุรี เฮลท์ วิลเลท ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพักฟื้น และผู้ป่วยติดเตียง ได้เปิดให้บริการแล้วเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัว บริษัท ศูนย์ หัวใจ โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบไตรมาส 2 ปี2564

นายแพทย์ธนาธิป กล่าวว่า จากโครงการลงทุนใหม่ๆ และโครงการที่จะเปิดให้บริการตามแผนที่วางเอาไว้จะหนุนให้บริษัทมีการเติบโตของรายได้ที่ 7-10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม7,488.64 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักยังมาจากธุรกิจโรงพยาบาลประมาณ 93%

สำหรับการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจานำเข้าวัคซีนของบริษัท “ซิโนแวค” จากประเทศจีน จำนวน 1.5แสนโดส โดยเป็นการจองซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม และคาดว่าจะได้รับวัคซีนในช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้ เบื้องต้นจะนำไปแจกจ่ายให้แก่กลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาลซึ่งปัจจุบันมีบริษัทขนาดใหญ่ให้ความสนใจติดต่อเข้ามามาก อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้กำหนดราคาขายจนกว่ากฎหมายจะอนุญาต