"2ป." แทคทีม โต้ "ทวี" ยันไม่ละเว้น ตาม "ที่ดินเขากระโดง" คืนรถไฟ

"2ป." แทคทีม โต้ "ทวี" ยันไม่ละเว้น ตาม "ที่ดินเขากระโดง" คืนรถไฟ

"ทวี"ขุดคำพิพากษาศาลฎีกา สั่งเอาคืนที่ดินรถไฟ เขากระโดง ย้ำไม่ไว้ใจ "2รมต." ไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ก่อนถูกสวน "นายกฯ" แจงตั้งตำรวจสัญญาบัตร ตามกระบวนการ - ไม่มีผลประโยชน์

        ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล  วันที่สี่ ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ  อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ประเด็นการแต่งตั้งนายตำรวจโดยขาดกรอบและระเบียบรองรับ รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกา ต่อกรณีที่ดินของการรถไฟ สี่แยกเขากระโดง จ.บุรีรัมย์  ว่าเป็นกรรมสิทธิของการรถไฟ ดังนั้นกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ควรต้องดำเนินการตามคำพิพากษาของศาล
        ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์  ชี้แจง ว่ากรณีที่เกิดคดีพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ของการรถไฟ ในจังหวัดบุรีรัมย์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2548 โดยกรรมาธิการวิสามัญของวุฒิสภาได้ตรวจสอบ การครอบครองที่ดินของครอบครัวชิดชอบ ทั้งนี้พบรายละเอียดว่าการรถไฟไม่สามารถชี้แจวเขตได้ รวมถึงไม่สามารถแสดงแผนที่ต่อกมธ. ได้ ทำให้ในปี 2550 การตรวจสอบมีข้อยุติว่าโฉนดที่ได้ออกไปแล้วให้มีผล คือ ผู้ที่ถือครอบครองโฉนดนั้นถูกต้อง 
 
        พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีคดีว่าประชาชนที่ต้องการขอออกเอกสารสิทธิ์ ตามที่กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยจะลงพื้นที่สำรวจ ได้ยื่นฟ้องต่อศาล ฟ้องการรถไฟกรณีคัดค้านการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิ ซึ่งศาลฎีกาตัดสินว่าที่ดินเป็นของการรถไฟ 
 
        "กรมที่ดินสามารถดำเนินการได้ เฉพาะที่กฎหมายกำหนด แต่ศาลไม่ได้สั่งให้กรมที่ดินไปเพิกถอน ตามที่ส.ส.อ้าง หากศาลมีคำพิพากษาแล้วผมละเว้น ไม่ใช่แค่ไม่ไว้วางใจ แต่ต้องไปอยู่ในคุก และหลังจากที่ศาลฏีกาพิพากษาแล้ว ปัจจุบันไม่พบว่าการรถไฟได้ร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลใด ดังนั้นที่อ้างว่าศาลพิพากษา และบอกว่าให้กรมที่ดินไปเพิกถอน เป็นคนละเรื่อง เพราะกรมที่ดินไม่รู้ว่าที่ดินหมายเลขใด โฉนดใดที่ต้องเพิกถอน ดังนั้นนักกฎหมายควรยืนบนหลักให้ดี ทั้งนี้ หากศาลสั่งแล้วไม่ทำ จะอยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน หากศาลไม่สั่ง แล้วไปเพิกถอน ก็อยู่ไม่ได้” พล.อ.อนุพงษ์​ ชี้แจง 
 

        ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์  ชี้แจงต่อประเด็นการแต่งตั้งตำรวจ โดยไม่ผ่านการสอบคัดเลือกว่า ที่ระบุว่าการบรรจุตั้งตำรวจโดยไม่เป็นธรรมนั้น สร้างความเสียหาย ทั้งนี้ความน่าเชื่อถือจะกล้าวอ้างว่าทำผิดหรือทำถูกไม่ได้หากไม่มีคดีปรากฎ พร้อมแจกแจงการบรรจุตำรวจสัญญาบัตร ที่ถูกกล่าวหาว่า ในปี 2562 แต่งตั้งตำรวนชี้นสัญญาบัตรโดยไม่ผ่านการสอบแข่งขัน ทั้งที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจมีผู้เรียนเพียง  200 คน  ข้อเท็จจริงคือ การแต่งตั้งบรรจุตำรวจสัญญาบัตร จากบุคคลภายนอก เป็นยศ ร.ต.ต. มีหลายทาง ได้แก่  รับจากโรงเรียนนายร้อย 300 คน , สอบคัดเลือกเลื่อนระดับจากตำรวจประทวน จำนวน  200 นาย , สอบคัดเลือกบุคคลภายนอก วุฒิปริญญาตรีด้านกฎหมาย  200 นาย, แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ 200 นาย และ ทายาทตำรวจที่เสียชีวิ 100 นาย รวม 1,000 นาย ดังนั้นยืนยันว่าการแต่งตั้งมีที่มาที่ไป ไม่ใช่แต่งตั้งด้วยเส้นสาย ซึ่งการอภิปรายนั้นไม่เป็นความจริง ขาดควาน่าเชื่อถือ อีกทั้งตนไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง เพราะเป็นเรื่องที่ ผบ.ตร. ดูแล และอนุมัติตามแต่ละระดับ.