เอ็กโก กรุ๊ป พร้อมชิงโควตาโรงไฟฟ้าชุมชน

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO (เอ็กโก กรุ๊ป) เปิดเผยว่า บริษัท มองหาโอกาสขยายการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าในประเทศ แต่เนื่องด้วยประเทศไทยยังเผชิญกับปัญหากำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) ล้นระบบ ทำให้การพัฒนาโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นได้จะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น

ดังนั้น บริษัท สนใจเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน นำร่องรับซื้อไฟฟ้าปริมาณ 150 เมกะวัตต์ ที่ภาครัฐเตรียมจะเปิดให้ยื่นเสนอโครงการในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยบริษัทได้มีความร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนในหลายพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมร่วมประมูล โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมองโอกาสจะเข้าลงทุนในหลายโครงการ ทั้งเชื้อเพลิงชีวมวลและเชื้อเพลิงชีวภาพ คาดว่า จะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์

“โรงไฟฟ้าชุมชนของบริษัท จะต้องมีความร่วมมือกับชุมชนในลักษณะระบบเกษตรพันธสัญญา หรือ คอนแทรคฟาร์มมิ่ง (contract farming) เพราะเชื้อเพลิงเป็นดัชนีสำคัญ ว่าโรงไฟฟ้าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ และเพื่อให้มั่นใจว่า จะมีการปลูกพืชป้อนโรงไฟฟ้าชัดเจน เราไม่ต้องการใช้ชาวบ้านไปตัดไม้จากที่ไหนก็ไม่รู้มาป้อนโรงไฟฟ้า ซึ่ง คอนแทรคฟาร์มมิ่ง เป็น คีย์เวิร์ดสำคัญที่จะสร้างรายได้ และไม่ทำลายป่า”

อย่างไรก็ตาม โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ไม่ใช่ลักษณะของโครงการที่จะมุ่งหวังผลกำไร แต่ะเป็นการช่วยสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และบริษัทเองก็มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จึงต้องการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาในโครงการนี้

นอกจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ยังมีแผนจะเปิดประมูลหาผู้รับเหมาติดตั้ง(EPC) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ หรือ “โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น (Hydro-floating Solar Hybrid )” ขนาด 24 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้ บริษัท ก็สนใจเข้าร่วมประมูลในโครงการดังกล่าวด้วย และอาจจะต้องหาพันธมิตร หรือ ซัพพลายเออร์ ที่มีความพร้อม เช่น เรื่องของแผงโซลาเซลล์ ( Photovoltaic : PV ) และระบบอินเวอร์เตอร์ เพื่อเข้าร่วมในโครงการด้วย

นายเทพรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันบริษัท ยังเตรียมหารือกับ กฟผ.ในฐานะบริษัทแม่ และกระทรวงพลังงาน เพื่อนำเสนอแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม (ส่วนเพิ่ม) กำลังการผลิต รวม 1,800 เมกะวัตต์ บรรจุในแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว หรือThail Integrated Energy Blueprint (TEIB) หรือ แผนพลังงานแห่งชาติ ที่ทางกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างการจัดทำแผน โดยเห็นว่าโรงไฟฟ้าขนอม (ส่วนเพิ่ม) เป็นโครงการที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับอยู่แล้ว ทั้งระบบท่อส่งก๊าซ และระบบสายส่ง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มความมั่นคงระบบไฟฟ้าป้อนความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้

ส่วนโรงไฟฟ้าของบริษัทที่ใกล้จะสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟฟ้ากับภาครัฐ ในปีนี้ จะมีโรงไฟฟ้าหนองแค กำลังการผลิต 56.5 เมกะวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าเอ็กโก โครเจน กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ จะหมดสัญญา ในปี 2566 แต่เนื่องจากโรงไฟฟ้าเอ็กโก โครเจน ได้รับการพิจารณาต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ทดแทนสัญญาชุดเดิมที่จะหมดอายุลง (SPP Replacement) จึงไม่ได้รับผลกระทบต่ออย่างใด