‘พริ้นซ์’เล็งจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจ
“พริ้นซิเพิล แคปิตอล” เผย นักลงทุนสนใจร่วมลงทุนธุรกิจแคร์ ปัจจุบันเจรจา 3-4 บริษัท คาดชัดเจน เม.ย.นี้ เตรียมขายหุ้นพีพี 10% ราว 1 พันล้าน ตั้งเป้าปี 2566 ติดอันดับ 6 ธุรกิจโรงพยาบาล ดันมาร์เก็ตแคปแตะ 2.8 หมื่นล้าน ทุ่มงบลงทุน 3 ปี แตะ 5 พันล้านขยายโรงพยาบาล-คลินิก-ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ ดันรายได้โตเท่าตัว
นายสาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เปิดเผยว่า บริษัทวางตัวเองเป็น Healthcare Enabler ร่วมมือกับพันธมิตรที่สนใจจะทำธุรกิจเฮลธ์แคร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย 3-4 ราย เพื่อพิจารณาคัดเลือก 1 รายก่อน คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงเม.ย.นี้ และจะมีพันธมิตรหลายรายเข้ามาร่วมมือกันมากขึ้นภายในสิ้นปี 2564
สำหรับพันธมิตรที่สนใจร่วมลงทุนกับบริษัทตอนนี้ เป็นนอกธุรกิจเฮลธ์แคร์ เช่น อสังหาริมทรัพย์ รีเทล โลจีสติกส์ พลังงาน ประกันและการเงิน นิคมอุตสาหกรรม รวมถึงมูลนิธิ โดยบริษัทจะเตรียมการเพิ่มทุน ในลักษณะขายหุ้นให้นักลงทุนรายใหญ่ หรือ PP ระดับ 10 % ต่อปีในปี 2564-2566 ผู้ร่วมทุนต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำอย่างน้อย 1 พันล้านบาท ส่วนโมเดลการทำธุรกิจร่วมกันมีหลากหลาย ทั้งลงทุนผ่านเรา หรือลงทุนผ่านเราและไปสร้างใหม่ร่วมกัน เพื่อขยายบริการทางการแพทย์ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ บนระดับบริการที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงชุมชน หรือกลุ่มลูกค้าระดับกลางซึ่งเป็นกลุ่มตลาดสำคัญและขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก
ทางด้านงบลงทุนในช่วง 3 ปีนี้ (ปี 2564-2566) วางไว้ที่ 5 พันล้านบาท จากการขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อมามุ่งเน้นการขยายจำนวนโรงพยาบาลให้เป็นไปตามเป้าหมาย ครบ 20 แห่ง , คลินิกจำนวน 100 แห่ง และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ 5 แห่ง
โดยใน 2564 นี้ บริษัทจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท แบ่งเป็นการขยายโรงพยาบาลจำนวน 3 แห่งประมาณ 900 ล้านบาท จากปัจจุบันมี 11 แห่ง รวมถึง เปิดคลินิก 10 แห่ง อีก 30 ล้านบาท และการลงทุนเพื่อเปิดศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ 1 แห่ง 70 ล้านบาท ในปีนี้เป็นปีแรก
บริษัทวางเป้าหมายในปี 2566 มาร์เก็ตแคปแตะ 2.8 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ขึ้นเป็น 1 ใน 6 ของธุรกิจโรงพยาบาลที่จดทะเบียนในตลาดทรัพย์ฯ จำนวนเตียงคาดจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,859 เตียง จากปัจจุบันที่ 1,000 เตียง และบริษัทคาดหวังว่าผลของการขยายการลงทุนดังกล่าวจะผลักดันให้รายได้เติบโตเท่าตัว หรือแตะระดับ 5,000 ล้านบาท ได้ภายในปี 2566 ส่วนปีนี้คาดรายได้โตไม่น้อยกว่าส 50% หรือ 3,600 ล้านบาท
ทั้งนี้คาดจะมีกำไรในตั้งแต่ปี 2565 เพราะโดยปกติธุรกิจโรงพยาบาลจะใช้ระยะเวลา 5 ปีในการคืนทุน ซึ่งบริษัทได้เริ่มลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลมาเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว
