ทอท.พัฒนาที่ดินสุวรรณภูมิ ดันรายได้“นอกการบิน”ปี66

ทอท.พัฒนาที่ดินสุวรรณภูมิ ดันรายได้“นอกการบิน”ปี66

ทอท.เตรียมพิจารณาข้อเสนอเอกชน ก.พ.นี้ ลุยพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 1.2 พันไร่ เผยโปรเจ็กใหญ่จ่อไฟเขียวเฟสแรก ตลาดกลางสินค้าเกษตร – คลังสินค้า – ศูนย์ฝึกนักบิน หวังดันรายได้นอกเหนือการบินครองสัดส่วน 50% ภายในปี 66

ทอท.เตรียมพิจารณาข้อเสนอเอกชน ก.พ.นี้ ลุยพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 1.2 พันไร่ เผยโปรเจ็กใหญ่จ่อไฟเขียวเฟสแรก ตลาดกลางสินค้าเกษตร – คลังสินค้า – ศูนย์ฝึกนักบิน หวังดันรายได้นอกเหนือการบินครองสัดส่วน 50% ภายในปี 66

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยถึงแผนดำเนินงานในปีนี้ โดยระบุว่า ทอท.ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทบต่อปริมาณผู้โดยสารลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเฉลี่ยปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท.เฉพาะผู้โดยสารในประเทศราว 1.4 – 2 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่ผู้โดยสารระหว่างประเทศอยู่ที่กว่า 1 พันคนต่อวัน

  161165958931

อย่างไรก็ดี ทอท.มีแผนจัดหารายได้นอกเหนือธุรกิจการบินให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินโครงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุต่อยอดเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ จัดใช้พื้นที่รวมกว่า 1.2 พันไร่ แบ่งเป็น ที่ดินแปลงที่ 37 เนื้อที่ 1,470 ไร่ อยู่ด้านนอกอาคารผู้โดยสาร ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันใช้พื้นที่บางส่วนก่อสร้างเป็นไบก์เลนไปแล้ว ยังเหลือประมาณ 700 ไร่ และที่ดินของ ทอท.เนื้อที่ 723 ไร่ ปัจจุบันเหลือใช้ราว 500 ไร่ ซึ่งดำเนินการปรับสีผังเมืองจากสีเขียว (ที่ดินประเภทเกษตรกรรม) เป็นสีน้ำเงิน (ที่ดินประเภทราชการ) เสร็จแล้ว

 

“ตอนนี้เราทำงานคู่ขนานไป สำหรับพื้นที่ทั้งสองส่วน ซึ่งในส่วนของธนารักษ์ได้ลงนามข้อตกลง ขยายสัญญาเช่าออกไปอีก 20 ปี จากปี 2575 เป็นปี 2595 จะมีการเสนอขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมธนารักษ์ในเร็วๆ นี้ ส่วนการปรับสีผังเมืองตอนนี้เสร็จแล้ว เหลือประกาศโดยจังหวัด ภาพรวมตอนนี้จึงคิดว่าจะเสร็จไปพร้อมกัน คู่ขนานกันไป”

สำหรับขั้นตอนการจัดหาเอกชนร่วมลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว ที่ผ่านมา ทอท.ได้ดำเนินการสอบถามความสนใจของเอกชนไปบ้างแล้ว พบว่ามีเอกชนให้การตอบรับอย่างดี มีผู้ประกอบการกว่า 40 รายยื่นข้อเสนอเพื่อพัฒนาโครงการที่หลากหลายกันไป เบื้องต้น ทอท.คาดว่าในระหว่างเดือน ก.พ. – มี.ค.นี้ จะเริ่มพิจารณาข้อเสนอของเอกชน ซึ่งปัจจัยประกอบการตัดสินใจอนุมัติลงทุน กลุ่มแรกของธุรกิจ ทอท.ตั้งเป้าจะให้เป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน

 

ทั้งนี้ธุรกิจกลุ่มแรกที่ ทอท.ประเมินอนุมัติลงทุน เบื้องต้นมี 3 ธุรกิจ ประกอบไปด้วย 1.คาร์โก้ ซึ่งจะเป็นการรวมตัวของสินค้าจากท้องถิ่นที่มีมาตรฐาน และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ 2. ตลาดกลางสินค้าเกษตร เนื่องจาก ทอท.มีแผนจัดตั้งบริษัทลูก โครงการศูนย์ตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก (Certify Hub) ภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะต่อยอดธุรกิจทั้งสองส่วน และ 3. โครงการศูนย์ฝึกนักบิน ของสายการบินไทยเวียดเจ็ท ที่มีแผนพัฒนาศูนย์ฝึกนี้รองรับในตลาด CLMV ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการบินโดยตรง

 

“กลุ่มธุรกิจส่วนแรกที่ ทอท.จะอนุมัติลงทุน จะต้องเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องการบิน เพราะจะเป็นโอกาสให้กับอุตสาหกรรมการบินด้วย โดยทั้ง 3 โครงการข้างต้น เป็นโครงการใหญ่ ประเมินแล้วน่าจะใช้พื้นที่ราว 400 – 500 ไร่ ส่วนธุรกิจอื่นๆ ที่เหลือ ทอท.จะพิจารณาข้อเสนอ โดยจะดูโมเดลธุรกิจเพื่อไม่ให้ขัดกับธุรกิจที่อยู่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่แล้ว”

                ทั้งนี้ การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือเมืองการบินสุวรรณภูมิ ของ ทอท.ครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มรายได้นอกเหนือจากธุรกิจการบิน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับสัดส่วนรายได้ จากปัจจุบันธุรกิจการบิน (Aero) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 57% และธุรกิจนอกเหนือจากการบิน (Non Aero) 43% ปรับเป็นธุรกิจการบิน 50% และรายได้นอกเหนือธุรกิจการบิน 50% ภายในปี 2565 – 2566