โค้งสุดท้าย! งาน 'Silk Festival 2025' สัมผัสผ้าไทยรางวัล UNESCO

ไม่ไปไม่ได้แล้ว กับโค้งสุดท้าย "Silk Festival 2025" ปักหมุดเมืองทองฯ ชมที่สุดแห่งผ้าไทยระดับโลก การันตีโดย UNESCO และ WIPO
KEY
POINTS
- งาน Silk Festival 2025 จัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อยกระดับผ้าไทยสู่สากลภายใต้แนวคิด "BRING THE VILLAGE TO THE WORLD"
- ไฮไลต์สำคัญคือนิทรรศการเฉลิมฉลองเหรียญสดุดีจาก UNESCO และรางวัล WIPO Award ที่ทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ในฐานะที่ทรงมีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมผ้าไทย
- ภายในงานมีการจัดแสดง 4 โมเดลต้นแบบการพัฒนาผ้าไทย แฟชั่นโชว์จาก 31 แบรนด์ดัง และโซนจำหน่ายสินค้า OTOP ระดับพรีเมียมกว่า 200 ร้านค้า
สำหรับคอแฟชั่นและผู้หลงใหลในงานหัตถศิลป์ นี่คือโอกาสสุดท้ายที่ไม่ควรพลาด กับงานใหญ่ส่งท้ายปี Silk Festival 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยในวันนี้ (7 ธันวาคม 2568) ถือเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน
งาน Silk Festival 2025 เป็นดั่งพื้นที่ปล่อยของระดับมาสเตอร์พีซที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ตั้งใจเนรมิตภายใต้แนวคิด "BRING THE VILLAGE TO THE WORLD" เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้ทรงพลิกโฉมผ้าไทยให้กลายเป็น Global Item ที่โลกต้องจับตามอง
ไฮไลต์ที่ทรงพลังที่สุดของงานปีนี้ คือการเฉลิมฉลองความสำเร็จที่เหนือกว่าคำว่าสวยงาม เพราะเป็นการประกาศศักดาในเวทีโลกอย่างเป็นทางการ งานนี้คุณจะได้พบกับนิทรรศการที่บอกเล่าเบื้องหลังความสำเร็จของรางวัล "WIPO Award for Creative Excellence 2025" จากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ที่ทูลเกล้าฯ ถวายแด่ "เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" เพื่อสดุดีพระปรีชาสามารถด้านการออกแบบแฟชั่นและการสร้างสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญา
ยังไม่พอ องค์การยูเนสโก (UNESCO) ยังได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดีในฐานะที่ทรงเป็นผู้ "Bring the Village to the World" สะท้อนให้เห็นว่า ผ้าไทยไม่ใช่แค่เครื่องนุ่งห่ม แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่สร้างมูลค่าเศรษฐกิจมหาศาล และได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างแท้จริง การได้มาเดินชมงานนี้ จึงเหมือนการได้สัมผัสพลังของ Soft Power ไทยที่จับต้องได้และน่าภาคภูมิใจ
สิ่งที่ทำให้ Silk Festival 2025 แตกต่าง คือการนำเสนอองค์ความรู้ผ่านนิทรรศการที่มีชีวิตชีวา โดยเฉพาะการเจาะลึก 4 โมเดลต้นแบบที่สร้างอาชีพให้คนไทย ซึ่งคุณจะได้เห็นกระบวนการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
- นาหว้าโมเดล (Nawa Model) ต้นแบบการฟื้นฟูภูมิปัญญาจากอำเภอนาหว้า จ.นครพนม ที่รวบรวมกลุ่มทอผ้าถึง 6 กลุ่มชุมชน มาฟื้นคืนลวดลายผ้าโบราณให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ถือเป็นจุดกำเนิดของการอนุรักษ์ลายผ้าพระราชทานที่หาชมยาก
- ดอนกอยโมเดล (Don Koi Model) จากหมู่บ้านย้อมคราม จ.สกลนคร สู่แฟชั่นสตรีทแวร์ระดับสากล นี่คือโมเดลที่เน้นการพัฒนาครบวงจร (Full Circle) ตั้งแต่การปลูกฝ้าย การย้อมสีธรรมชาติ ไปจนถึงการดีไซน์ที่ทันสมัย จนกลายเป็นสินค้าที่ตลาดต่างชาติต้องการ
- บาติกโมเดล (Batik Model) การยกระดับผ้าบาติกจากภาคใต้ ให้กลายเป็น Resort Wear สุดหรู ด้วยเทคนิคการผสมผสานผ้าเนื้อหนาและบางเบา ลบภาพจำเดิมๆ ของผ้าบาติก สู่ไลฟ์สไตล์ไอเทมที่ใส่เที่ยวทะเลหรือเดินห้างฯ ได้อย่างไม่ขัดเขิน
- หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Life) นำเสนอวิถีชีวิตแห่งความสุขตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ชุมชนพึ่งพาตนเองได้ และมีความสุขอย่างยั่งยืน
งานนี้เปรียบเสมือน Fashion Week ย่อมๆ ที่รวบรวมแบรนด์ไทยชั้นนำกว่า 31 แบรนด์ อาทิ SIRIVANNAVARI, ASAVA, THEATRE, KAI, MILIN และ TIRAPAN มาร่วมสร้างสรรค์ลุคจากผ้าไทยกว่า 67 ลุค เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" นั้นเป็นเรื่องจริง ผ้าไหมและผ้าฝ้ายทอมือถูกนำมาตัดเย็บในคัตติ้งที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ใส่ทำงานได้จริง และใส่ออกงานได้อย่างโก้หรู
นอกจากแฟชั่นโชว์แล้ว ยังมีเวทีเสวนาวิชาการ (Mini Symposium) ที่ได้รับเกียรติจากกูรูแฟชั่นระดับโลกอย่างบรรณาธิการ Vogue Philippines และ L’Officiel Vietnam มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในการดันแฟชั่นไทยสู่เวทีโลกอีกด้วย
สำหรับนักช้อป โซน OTOP Premium คือสวรรค์ที่คุณต้องมาเยือน รวบรวมร้านค้ากว่า 200 ร้าน ที่คัดสรรงานหัตถศิลป์ ผ้าทอ เครื่องประดับ และของตกแต่งบ้านระดับท็อปฟอร์มจากทั่วประเทศมาไว้ในที่เดียว ช่วงเวลานี้เหมาะที่สุดสำหรับการหาของขวัญปีใหม่ที่มีคุณค่าทางจิตใจและมีเรื่องราว หรือจะแวะโซน "ชวนชิม" ที่มีร้านอาหารเด็ดกว่า 50 ร้าน มาเติมพลังหลังจากเดินช้อปจนหนำใจ
ปิดท้ายด้วยความบันเทิงจากมินิคอนเสิร์ตศิลปินลูกทุ่งขวัญใจมหาชนอย่าง ก้านตอง ทุ่งเงิน, เต๋า ภูศิลป์ และ เวียง นฤมล ที่จะมาสร้างสีสันให้การชอปปิงของคุณสนุกยิ่งขึ้น
งาน Silk Festival 2025 จัดที่ฮอลล์ 5-6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เข้างานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย







