อภ.เตรียมผลิต “ยารักษาโควิด-19”เองในไทย

อภ.เตรียมผลิต “ยารักษาโควิด-19”เองในไทย

อภ.ผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เอง แก้ขาดแคลน-ตรึงราคา-ลดกักตุน เดือนละ1 ล้านชิ้น พร้อมเตรียมผลิตยาฟาวิพิราเวียร์  ใช้รักษาโควิด-19เอง ซื้อสารตั้งต้นเข้ามาแล้วอยู่ระหว่างการทดลอง-ให้อย.ตรวจสอบมาตรฐานและอนุมัติให้มีการผลิตยาต่อไป

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข(รมว.สธ.)  กล่าวในการเป็นประธานเปิดสายการผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม(อภ.) ที่โรงงานผลิตยารังสิต จ.ปทุมธานีว่า  จากปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรค โควิด-19 เมื่อช่วงต้นปี 2563 ทำให้กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และอภ.ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหา และเดินสายการผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อให้มีใช้ในประเทศอย่างเพียงพอ และเป็นส่วนที่ช่วยตรึงราคาขายในประเทศให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม เป็นธรรม ไม่ทำให้เกิดการกักตุน นอกจากนี้ ยังมีแผนในการผลิตหน้ากากชนิด N95 และชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ด้วย เพราะถึงแม้ว่าโควิด-19จะคลี่คลายก็จะเดินหน้าพัฒนาต่อไป เพื่อทำให้เมื่อเกิดวิกฤตการณ์แล้วประเทศไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ทำให้ระบบการสาธารณสุขของไทยดำรงความเป็นอันดับต้นๆ ของโลกและมีมาตรฐานต่อไป

 “เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีวิกฤตการณ์ขาดแคลนหน้ากากอนามัย ที่จะใช้ในการป้องกันการติดโควิด 19 ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเจ็บใจ และเป็นสิ่งที่เราจะต้องรีบแก้ไข คำว่าน่าเจ็บใจคือเราต้องพึ่งคนอื่นหมดเลยทั้งที่เราเป็นกระทรวงสาธารณสุข แต่หาหน้ากากอนามัยไม่ได้และต้องไปให้พ่อค้า ที่มีความเห็นแก่ตัวกับตุนสินค้านำไปขายให้ประชาชน ถึงชิ้นละ 20-40 บาท เห็นแล้วเจ็บใจมาก ทั้งที่ หน้ากากอนามัยควรจะอยู่ในกล่องบรรจุกล่องละ 50 ชิ้น 100 ชิ้นแต่ถูกบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกถุงละ 1 ใบและใช้เงินเป็นจำนวนมากในการซื้อหา ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน เกิดความวิตก ชื่อเสียงของกระทรวงสาธารณสุขพลอยหมองไปด้วยสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า อภ.ยังอยู่ระหว่างการเตรียมผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ใช้รักษาโควิด-19 โดยขณะนี้มีการซื้อสารตั้งต้นเข้ามาแล้วอยู่ระหว่างการทดลองและการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานและอนุมัติให้มีการผลิตยาต่อไป ทั้งนี้ ขอย้ำว่าองค์การเภสัชกรรมเป็นรัฐวิสาหกิจ100% ดังนั้นผลกำไรต่างๆ ต้องถูกนำกลับไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนต่อไป และในอีก 2 สัปดาห์องค์การเภสัชฯ จะมีกรรมการชุดใหม่ที่มีนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน  เพื่อร่วมมือกันในการสร้างความมั่นคงของระบบสุขภาพของประเทศไทยต่อไป 

      ด้านนพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การฯ ได้ปรับพื้นที่ 120 ตารางเมตร ที่องค์การเภสัชฯ คลอง 10 ปทุมธานี เพื่อเดินสายการผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ กำลังการผลิตเดือนละ 1 ล้านชิ้น หรือ 10-12 ล้านชิ้นต่อปี โดยเป็นหน้ากากแบบใช้ครั้งเดียวสำหรับรพ.ทั่วไปใช้ป้องกันอนุภาคต่างๆ  เลือดหรือสารคัดหลั่งในร่างกาย เบื้องต้นจะกระจายหน้ากากอนามัยนี้ให้กับรพ.ภาครัฐ และบางส่วนจำหน่ายในร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรมทั้ง 8 สาขาและออนไลน์ ส่วนแผนในระยะถัดไปจะผลิตหน้ากากอนามัยชนิดมาตรฐานการป้องกันระดับ 2 เพื่อใช้ทางการแพทย์ในหน่วยฉุกเฉินหน่วยทันตกรรม สามารถกรองแบคทีเรียและอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 ไมครอนได้ถึง 98% รวมถึงการกรอง PM 2.5 ได้ด้วยสามารถต้านของเหลวซึมผ่านได้อย่างน้อย 120 มิลลิเมตรปรอท.