'มติรัฐสภา' ชงคำถามประชามติ โละรธน.60 ให้ 'นายกฯ'ดำเนินการ

'มติรัฐสภา' ชงคำถามประชามติ โละรธน.60 ให้ 'นายกฯ'ดำเนินการ

"รัฐสภา" มีมติไฟเขียวในญัตติด่วน ขอส่งคำถามประชามติ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่งให้ "นายกฯ" ดำเนินการ "ภราดร"ย้ำจริงใจแก้รธน.

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการประชุมรัฐสภา หลังจากที่มติรัฐสภายืนยันต่อการปรับแก้ไขเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมตามกมธ.เสียงข้างน้อยที่ให้สิทธิ สว. จำนวน 1ใน3 เห็นชอบต่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลุกหารือว่า ตนได้อ่านการโพสต์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ซึ่งระบุถึงการคืนอำนาจให้ประชาชน เป็นสัญญาณชัดเจนว่า อาจเป็นคำประกาศยุบสภา จึงขอให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาตรวจสอบสถานะอำนาจหน้าที่ของสมาชิกว่าสิ้นสุดลงแล้วหรือไม่ ย้ำว่า สมาชิกพรรคพร้อมลงสนามเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินอีกครั้ง

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า เรื่องยุบสภาเป็นอำนาจของรัฐบาล ส่วนสภายังคงต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย และให้เลื่อนการพิจารณาไปยังการประชุมครั้งต่อไป

ทางด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ชัดเจนแล้วว่าท่านนายกฯ ได้ยื่นการยุบสภาไปแล้ว เป็นไปได้ว่าจะลงในราชกิจจาในวันที่ 12 ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีประกาศใดๆ อย่างเป็นทางการสมาชิกภาพของพวกเราในสภาแห่งนี้ ยังมีอำนาจเต็มที่ 100% และตนคิดว่าสถานการณ์แบบนี้ ไม่ต้องอ้อมค้อม

"ก่อนที่จะมีราชกฤษฎีกายุบสภาเกิดขึ้น คือการให้มีคำถามประชามติ และมีมติจากรัฐสภาแห่งนี้ ไปให้ครม. มีมติถามคำถามประชามติคำถามแรก ดังนั้น ขอเสนอญัตติตามข้อบังคับ 33(4) ขอให้เลื่อนการพิจารณาวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" นายปกรณ์วุ​ฒิ กล่าว

ทางด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอพูดตรงๆ ไปยังพรรคภูมิใจไทย เมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศจะยุบสภา เท่าที่เราจะคิดได้ คงจะไม่มีการยุบสภาอย่างเป็นทางการก่อนเที่ยงคืนนี้ หมายความว่าสภานี้ยังอยู่ยังทําหน้าที่ได้ แต่ถ้ายุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค. หรือ  13 ธ.ค.ก็ตาม การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่เรากําลังทําอยู่ย่อมตกไป

"พรรคภูมิใจไทย ทําข้อตกลงทางการเมืองกับพรรคประชาชน ท่านได้ยื่นให้สภามีมติส่งไปคณะรัฐมนตรีขอให้ท่านแสดงความจริงใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่สภาจะยุบไป ด้วยการให้เลื่อน แล้วเราจะได้พิจารณาญัตติซึ่งจะมีผู้เสนอญัตติต่อไป" นายจาตุรนต์ กล่าว

ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ท่านไม่ต้องถามหาความจริงใจจากตนเองหรอก ตนจริงใจ และตั้งใจทำ ในเรื่องของการเสนอญัตติให้มีมติ เรื่องการทำประชามติก่อนใคร

 "คําถามประชามติ คําถามที่หนึ่งว่า ท่านเห็นชอบที่จะให้มีการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และตัวเลือกคําตอบคือเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และเมื่อรัฐสภามีมติรับรองคําถามดังกล่าวแล้ว ให้ประธานรัฐสภาเสนอคําถามนี้ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้คณะรัฐมนตรีดําเนินการ ให้มีการออกเสียงประชามติตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป" นายภราดร กล่าว

จากนั้น สมาชิกรัฐสภาจึงได้เสนอญัตติในลักษณะเดียวกันอีกรวม 5 ญัตติ โดยช่วงหนึ่งของการเสนอญัตติ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย  อภิปรายตอนหนึ่งว่าการตั้งคำถามประชามติเรื่องดังงกล่าวหากผ่านเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะทำประชาชนถามความต้องการประชาชนต่อการได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเพื่อให้เกิดการแก้ไขเพิ่มเติมในรัฐสภาชุดต่อไป ไม่แปลกหากนำร่างที่พิจารณาไปประกอบและยกร่างใหม่

“สมาชิกรัฐสภาใจจดใจจ่อ แม้เป็นอดีตสส. อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไคยยินดีกลับไปรับอำนาจประชาชนเพื่อยืนตรงนี้และทำนห้าที่แทน มส่วนใครได้รับโอกาสมากกว่ากัน ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ปรากฎ โอกาสาหน้าจะกลับมาใหม่”นพ.ชลน่าน อภิปราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งว่าการพิจารณาญัตติดังกล่าวต้องทำให้จบภายใน 23.30 น. ดังนั้นในญัตติที่มีคำถามในทำนองเดียวกัน ขอให้ส่งไปยังครม. ทั้ง 5 ฉบับเพื่อดำเนินการต่อไป หากไม่มีใครขัดข้อง ถือว่าเป็นมติของรัฐสภา โดยไม่ต้องมีการลงมติ 

"ผมได้หารือกับเลขาธิการสภาฯ และอาศัยข้อบังคับโดยไม่มีผู้ใดเห็นเป็นอย่างอื่น ยกเว้นแต่ไม่มีใครเห็นเป็นอย่างอื่น" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

ทั้งนี้นายปกรณ์วุฒิ โต้แย้งว่าเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทางกฎหมายขอให้ลงคะแนนด้วยการกดบัตรลงคะแนน ซึ่งนายจาตุรนต์ อภิปรายสนับสนุน ทำให้ต้องใช้การลงมติตัดสิน

โดยผลการลงมติพบว่า 494 เสียงให้ส่งคำถามประชามติ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปยังนายกฯ ต่อ เสียงไม่เห็นด้วย 1 งดออกเสียง 9เสียงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป 

จากนั้นที่ประชุมได้อ่านพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมวิสามัญและปิดประชุมไปเมื่อเวลา 23.16 น.