‘เยาวภา-ยิ่งลักษณ์’ ผลักมิตรเป็นศัตรู ศึกอบจ.ย้ำ‘รอยร้าวเพื่อไทย’

จาก “มิตร” ที่ถูกผลักให้เป็น“ศัตรู” การประกาศแยกทางการเมืองกับอดีตคนคุ้นเคย ท่ามกลางสนามเลือกตั้ง“อบจ.” ที่กำลังร้อนระอุอยู่ในขณะนี้เป็นการตอกย้ำรอยร้าวพรรคเพื่อไทย ที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรี
นับถอยหลังอีก6วัน คือในวันที่20ธ.ค.จะเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศ ถือเป็นการประเดิม “หย่อนบัตร” สนามการเมืองท้องถิ่นเป็นสนามแรก หลังว่างเว้นมานานกว่า6ปี นับตั้งแต่มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่1/2557ห้ามให้มีการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นจำนวน98,940ตำแหน่งทั่วประเทศ
การเลือกตั้งในรอบนี้ในรอบนี้ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลถึง3,200 ล้านบาท ปรากฎภาพเดิมพันสูงในหลายจังหวัด ขณะที่ขั้วอำนาจระดับท้องถิ่นสั่ง “ห้ามแพ้-ห้ามถอย” มีในกระเป๋าเท่าไหร่ทุ่มสุดตัว ห้ามกั๊กเก็บค่าต๋ง
เมื่อเดิมพันสูง การแข่งขันย่อมสูงตามไปด้วย เช่นนี้ทำให้บรรยากาศในพรรคเพื่อไทย (พท.) มาคุ จากมิตรถูกผลักให้เป็นศัตรู แยกทางเดินทางการเมือง
ภาพเริ่มปรากฎชัดหลังจากที่ “เจ้หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรค พร้อมสมาชิกจำนวนหนึ่งที่บางคนถึงขั้นเป็น “สมาชิกตลอดชีพ” ยอมกลืนเลือดออกจากพรรคเพื่อไทย ประกาศแยกทางจากทุกตำแหน่งในพรรค ปิดฉากสัมพันธ์30ปี ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าไม่มีความคิดนี้อยู่ในหัว
สาเหตุการลาออกในครั้งนี้แม้มีที่มาจากหลายปมที่ร้าวฉานกับคนในพรรคทั้ง กรณีความไม่ชัดเจนของกรรมการบริหารพรรค เรื่องการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร รวมถึงการตั้งกรรมการและอนุกรรมการใหม่ แทนทีมคุณหญิงโดยไม่มีชื่อบุคคลในเครือข่ายส.ส. ทีมของคุณหญิงสุดารัตน์ แม้แต่คณะเดียว
แต่ฟางเส้นสุดท้ายคือการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครทั้งของพรรคเพื่อไทยและผู้สมัครอิสระบางรายที่พรรคเพื่อไทยหนุนหลัง
ว่ากันว่า “บิ๊กเนม” ในพรรคเพื่อไทยไม่พอใจที่สุดารัตน์ออกตระเวนหาเสียง ตรงกันข้ามกับผู้สมัครที่เห็นว่าชื่อของสุดารัตน์ขายได้มากกว่าชื่อของหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค
แม้จะพยายามอธิบายเหตุผลแต่ก็ยากจะต้านทาน โดยเฉพาะฟากฝั่งของ “เจ๊ปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ไม่กินเส้นกับสุดารัตน์ มีเรื่องบาดหมางกันหลายปม ได้ทีสั่งลูกทีมเล่นใหญ่ใช้กำลังภายในกดดันจนสุดารัตน์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวยอมเขียนใบลาออกในท้ายที่สุด
ฟากฝั่ง “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นพี่สาว ไม่น้อยหน้าเดินเกมใต้ดินวางหมากให้ “คนเสื้อแดงเชียงใหม่” จัดฉากแถลงข่าวปลด “จตุพร พรหมพันธุ์” พ้นตำแหน่งประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
เพราะโพลพรรคเพื่อไทยรู้กันทั้งบางว่า “บุญเลิศ บูรณปกรณ์” อดีตคนคุ้นเคยที่ยืนเคียงข้างตระกูล“ชินวัตร” มายาวนานกว่า20ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ที่เวลานี้ทำให้ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร แสนเจ็บแค้นแสนสาหัสถึงขั้นประกาศกร้าวเชียงใหม่แพ้ไม่ได้ถึงขั้นลงทุนเขียนจดหมายอ้อนขอคะแนนชาวเชียงใหม่ จะเอาชนะ “ส.ว.ก๊อง” นายชูช้ย เลิศพงศ์อดิศร ที่เจ๊แดงเลือกสรรมาและเพิ่งมาเริ่มแนะนำตัวเมื่อกลางปีที่แล้ว ยึดเมืองเชียงใหม่บ้านเกิดพี่น้องตระกูลชินวัตรได้สำเร็จ
ว่ากันว่าชั่วโมงนี้วัดกันตามโพลแล้วบุญเลิศมีคะแนนทิ้งห่าง ส.ว.ก๊อง หลายหมื่นคะแนน ยิ่งไปกว่านั้น หากโพลไม่หลอกตัวเองอาจจะมีคะแนนห่างกันเฉียดแสนคะแนน
ทำให้ “เจ๊แดง” เจ้าของพื้นที่อยู่เฉยไม่ได้ ดิ้นรนจนงัดทุกท่าไม่ตายมาจบที่“บุญเลิศ” ให้ได้ โดยทิ่มไปที่“จตุพร” ที่ออกตัวหนุนบุญเลิศ ดิสเครดิตคนเนรคุณนายเมื่อเรื่องรู้ถึงหูจตุพร เจ้าตัวก็ไม่เหนียมแฉกลับไม่ไว้หน้า เจ๊แดงคนทำทักษิณ ยิ่งลักษณ์พังพาบ
นาทีนี้ “เจ๊แดง” และ “จตุพร” แตกหักรุนแรง ยากที้จะประสานรอยร้าว แต่กับ “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์” ยังหลงเหลือมิตรภาพที่ดีต่อกัน ดังที่บอกว่า “รักเคารพอดีตนายกฯทักษิณและยิ่งลักษณ์ แต่ผมรับกับเจ๊ ไม่ได้จริงๆ”
ในส่วนของ“บุญเลิศ” อดีตเด็กในสายนายใหญ่ เป็นแชมป์เก่าในสนามอบจ.เชียงใหม่มา 2 สมัยก็เช่นกัน ทางฝั่งนายใหญ่น่าจะรู้ดีว่าหากปล่อยให้ “บุญเลิศ” นั่ง “นายกอบจ.เชียงใหม่” สมัย3 ย่อมส่งผลต่อการเมืองภาพใหญ่ในอนาคตอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทั้งหมดคือปมร้าว “พรรคเพื่อไทย” ที่ไม่มีทางจะจบแบบสุขสมหวังอีกต่อไป มีแต่เสียเลือด เสียเนื้อ เสียมิตร เสียเพื่อน







