'ศักดิ์สยาม 'ราคาเปิดเทรดวันแรกพุ่ง89.19%

'ศักดิ์สยาม 'ราคาเปิดเทรดวันแรกพุ่ง89.19%

'SAK' เข้าซื้อขายหุ้นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)โดยเปิดตลาดราคาอยู่ที่ 7.00 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาจองที่3.70 บาทต่อหุ้น หรือ เพิ่มขึ้น 89.19 %

 'SAK' เข้าซื้อขายหุ้นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)โดยเปิดตลาดราคาอยู่ที่  7.0บาทต่อหุ้น  สูงกว่า ราคาจองที่ 3.70บาทต่อหุ้น หรือปรับขึ้น 89.19% ระหว่างนั้นราคาปรับขึ้นมาอยู่ที่ 7.10 บาทต่อหุ้นหรือปรับขึ้นประมาณ 3.40%

นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย เปิดเผยว่า บริษัท ได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเริ่มซื้อขายเป็นวันแรกในวันที่ 8 ธันวาคม 2563 โดยช้ชื่อย่อหลักทรัพย์SAK’ ในการซื้อขายบนกระดานหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเชื่อมั่นว่าหุ้น SAK จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

โดย SAK มีเป้าหมายสร้างการเติบโตในทุกมิติภายใน 3 ปีข้างหน้าหรือภายในปี 2566 พอร์ตสินเชื่อจะขยายตัวเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท จากการขยายสาขาและขยายพอร์ตสินเชื่อตามแผนการใช้เงินจาก IPO และการนำเทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและยกระดับการให้บริการสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว โดยช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก และควบคุมความเสี่ยงเรื่องคุณภาพของสินเชื่อีกด้วย

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของ SAK คือ ลูกค้ารายย่อยที่เป็นฐานรากของเศรษฐกิจ โอกาสการเติบโตของตลาดสินเชื่อรายย่อยยังมีอีกมาก ภายหลังความสำเร็จจากการระดมทุน IPO ของ SAK ทำให้ SAK มีแหล่งเงินทุนและมี D/E ต่ำ วันนี้ SAK ร้อมรุกขยายธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดในทุกมิติ เพื่อผลักดันให้ SAK ก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการสินเชื่อระดับชาติ จากฐานทุนที่แข็งแกร่งภายหลังการระดมทุนจาก IPO ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจที่สั่งสมผ่านบุคลากรที่มีความเข้าใจในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเป็นอย่างดีนายศิวพงศ์ กล่าว  

สำหรับผลประกอบการช่วง 9 เดือน ปี 2563 SAK สามารถสร้างรายได้จากดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและบริการ อยู่ที่ 1,215 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 408 ล้านบาท และยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิเป็น 33.6% โดยในงวด 9 เดือน ปี 2563 SAK สามารถลดอัตรา NPL ลงเหลือ 2.6% (ค่าเฉลี่ย NPL ในอุตสาหกรรมที่ [3.8]%) สะท้อนการบริหารความสามารถจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดี ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทฯ มีพอร์ตสินเชื่อรวม 6,247 ล้านบาท จากจำนวนสัญญาสินเชื่อรวม 231,729 สัญญา แบ่งเป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกันกว่า 90% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ซึ่งผลการดำเนินงานดังกล่าวช่วยตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจพร้อมรับการขยายพอร์ตสินเชื่อหลังเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดี