"ส.ส.พท." ยื่น กมธ.ศาสนา สอบ "ส.พุทธ" ฟ้อง "อดีตพระพรหมดิลก"

"ส.ส.พท." ยื่น กมธ.ศาสนา สอบ "ส.พุทธ" ฟ้อง "อดีตพระพรหมดิลก"

ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้กมธ.ศาสนา สภาฯ สอบ สำนักพระพุทธศาสนา ฟ้อง อดีตพระพรหมดิลก ประเด็นเงินทอนวัด

               นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ  (กมธ.) การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร  รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักพระพุทธศาสนา กรณีสำนักงานพระพุทธศาสนา เป็นผู้ยื่นฟ้องอดีตพระพรหมดิลก อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ประเด็นการรับเงินจากสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จากนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย

               โดยนายนิยม เปิดเผยถึงข้อร้องเรียนให้ตรวจสอบ ได้แก่ 1.การแถลงข่าวของนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต่อกรณีของอดีตเจ้าคุณพระพรหมดิลก โดยมิได้รู้เห็นและรับทราบถึงข้อเท็จจริงในการเนินการให้มีการลาสิกขาตามกฎหมาย ในวันที่ 24  พฤษภาคม 2561 นั้น อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญของอดีตท่านเจ้าคุณพระพรหมดิลกและต่อพระภิกษุรูปที่เหลือซึ่งถูกจับกุมในวันเดียวกัน, 2.การกำหนดกรอบในการดำเนินการหากกฎหมายและกรอบทางพุทธบัญญัติ (พระวินัย) ต่อกรณีของอดีตท่านเจ้าคุณทั้ง 7 รูป ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561  เพื่อให้เกิดความชอบธรรมและความเหมาะสม ที่สามารถดำเนินการโดยไม่กระทบต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทยและทั่วโลก

                นายนิยม กล่าวด้วยว่า 3. พิจารณาดำเนินการต่อไปว่าหากคดีของอดีตท่านเจ้าคุณทั้ง 7 รูป ลุล่วงไปถึงศาลฎีกา และศาลฎีกามีคำพากษายกฟ้อง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในฐานะโจทก์ผู้ฟ้องร้องพระภิกษุหรืออดีตท่านเจ้าคุณเหล่านั้น จะดำเนินการรับผิดชอบต่อความเสียหายต่อตัวปัจเจก ซึ่งก็คืออดีตท่านเจ้าคุณที่ถูกจับและความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนอันเป็นส่วนสาธารณะอย่างไร เพื่อให้เกิดข้อยุติต่อพุทธศาสนิกชนที่ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวและเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อพระภิกษุผู้ถูกดำเนินคดีต่อไป

                  โดย นายเพชรวรรต  กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะขอรับเรื่องดังกล่าวเข้าบรรจุในระเบียบวาระการประชุมคณะ กมธ. ในครั้งต่อไป เพื่อศึกษาและพิจารณา พร้อมจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อชี้แจงและให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย.