กักตัวกลุ่มเสี่ยง 34 คนผู้สัมผัส 2 กรณีรามาฯพบ'โควิด'

กักตัวกลุ่มเสี่ยง 34 คนผู้สัมผัส 2 กรณีรามาฯพบ'โควิด'

สสจ.เลย-ชัยภูมิ ติดตามผู้สัมผัส2เคสโควิดรามาฯ รวม 34 ราย กักตัว-เร่งส่งตรวจหาเชื้อ เผยจังหวัดปลอดเชื้อมานานกว่า 4 เดือนแล้ว

         จากกรณีที่รพ.รามาธิบดีตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด-19 ในผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้(State Quarantine)จนครบ 14 วันแล้ว 2 ราย โดยรายแรกพบว่าเป็นซากเชื้อไม่มีความสามารถในการแพร่โรคต่อไปได้ เป็นเพศหญิง อายุ 34 ปี กลับจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีการตรวจพบเชื้อระหว่างการกักตัว และหลังครบกำหนดกักตัว ได้รับอนุญาตให้กลับภูมิลำเนา จ.ชัยภูมิ และรายที่ 2 เพศหญิงอายุ 35 ปี เดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่เคยตรวจพบเชื้อมาก่อน หลังครบกำหนดเดินทางกลับภูมิลำเนา จ.เลย ขณะนี้เป็นผู้ต้องสงสัยติดเชื้อรอการตรวจยืนยันรอบที่ 2 และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม

        ล่าสุด นพ.ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.)เลย กล่าวว่า ไม่ว่าผลการตรวจยืนยันเชื้อครั้งที่ 2 ของผู้ติดเชื้อที่มีภูมิลำเนาและเดินทางกลับเข้ามาจ.เลยจะเป็นผลบวกคือติดเชื้อหรือเป็นลบ ไม่ติดเชื้อ แต่ทีมสอบสวนโรคระดับพื้นที่ของจ.เลยลงไปสอบสวนโรคว่ารายนี้เดินทางมาอย่างไร และไปที่ไหนบ้าง รวมถึง มีการล็อคกักตัวกลุ่มเสี่ยงให้อยู่ในพื้นที่บ้านที่อยู่อาศัยที่เช่าอยู่ เพื่อกันคนเข้าออก โดยติดตามกลุ่มผู้สัมผัสบุคคลดังกล่าวและเก็บตัวอย่างสารคัดหลัง ส่งตรวจหาเชื้อทางห้องแล็ปแล้วมีจำนวน 17 ราย คาดว่าจะทราบผลในวันที่ 21 สิงหาคม 2563 รวมถึงปิดล็อคพื้นที่เสี่ยงที่เป็นบ้านเช่า เพื่อป้องกันบุคคลเข้าออกแล้ว

       “ไม่ว่าผลการตรวจยืนยันเชื้อของบุคคลท่านนี้จะเป็นอย่างไร แต่จ.เลยมีการเฝ้าระวังเชิงรุกในการตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้สัมผัส เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังจ.เลย ซึ่งที่ผ่านมา จ.เลยมีการรายงานผู้ติดเชื้อยืนยันเพียง 5 รายส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด และไม่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว”นพ.ปรีดากล่าว

     ด้านนพ.วชิระ บถพิบูลย์ นพ.สสจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้อยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อที่ขณะนี้อยู่โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นเพศหญิงอายุ 34 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาจ.ชัยภูมิ จำนวน 5 ราย ได้แก่ มารดา น้องสาวซึ่งเป็นครู บุตร 2 คน เป็นเพศชายอายุ 18 ปี และ6 ขวบ และญาติเพศหญิงที่ขับรถพาไปรับลูกของผู้ป่วยที่จ.หนองคาย โดยเบื้องต้นมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค    
   
      นอกจากนี้ ยังมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 12 คน ได้แก่ เพื่อนที่กลับจากดูไบซึ่งตรวจไม่พบเชื้อพร้อมครอบครัวเพื่อนรวม 3 คน เพื่อนบ้านที่กลับจากดูไบไปมาหาสู่กัน 5 คน และครอบครัวของญาติที่ขับรถรับส่งอีก 4 คน อย่างไรก็ตาม ในจ.ชัยภูมิที่ผ่านมาเคยพบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ทั้งสิ้น 3 ราย โดยรายสุดท้ายนั้นหายป่วยเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าไม่มาผู้ป่วยในจังหวัดมาร่วม 4 เดือนแล้ว